Awakening Chang Mai จัดร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), เครื่องดื่มช้าง, ตลาดเพลินฤดี (Central Group), Alliance Française และสายการบิน Bangkok Airwaysและ Time Out
Makelenwork x COTH
📍โกดังราชวงศ์
ช้างม่อย เป็นย่านเก่าของเชียงใหม่ที่กำลังกลับมาเติบโต และเต็มไปด้วยความเป็นมิตร อบอุ่น สนุกสนาน เป็นย่านที่ทำให้เราเชื่อในพลังของคำว่า “เพื่อน” และแสงที่ส่องสะท้อนจากงานศิลปะชิ้นนี้ถูกออกแบบมาให้สื่อสารความหมายของคำว่า "เพื่อน" ด้วยสีสัน จังหวะ เป็นความร่าเริงที่ชวนให้ทุกคนไปรับรู้และสัมผัสร่วมกัน ผ่านแผ่นฟิล์มขนาดใหญ่ที่ลอยหมุนอยู่ภายในพื้นที่ กระจายแสงสีไปอย่างไม่รู้จบตามจังหวะเสียงเพลง สะท้อนแนวคิด "เติมเต็ม คำว่าเพื่อน" ของเครื่องดื่มตราช้าง
Khopfa Chanpensri
📍สะพานชุมชนช้างม่อย
เหล่าฝูงสิ่งมีชีวิตกำลังโบยบินและมุ่งหน้าสู่ดอกไม้แห่งความยั่งยืน พร้อมที่จะให้เหล่าสิ่งมีชีวิตได้มาเก็บ และกระจายเกสรแห่งความยั่งยืน BIO*LUMINESCENCE เป็นสัญลักษณ์ถึงการเผยแพร่อุดมการณ์แห่งความสมบูรณ์ และการมีชีวิตชีวาของพื้นที่
John Mutter
📍MITTE MITTE
Just เต้น เป็นงาน Interactive ชวนให้ผู้คนที่ผ่านมาผ่านไปเข้ามา “เต้น” ที่ช่วยให้ผู้ชมควบคุมงานศิลปะโดยตรง เป็นโอกาสให้ผู้คนที่ผ่านไปได้ร่วมสนุกและรวมรวมเข้ากับงานศิลปะนี้อย่างไร้รอยต่อ โดยได้แรงบันดาลจากความทุ่มเทของชุมชนศิลปะในการสร้างสรรค์ชุมชนและผลงานอย่างต่อเนื่องในเชียงใหม่ งานนี้ชวนให้ผู้คนสองคนเต้นร่วมกันโดยใช้ร่างกายของพวกเขาในการควบคุมโมเดลสามมิติที่ถูกตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตอบสนองต่อเสียง ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปกลายเป็น "นักแสดง" และเข้าร่วมในงานศิลปะชิ้นนี้ มันไม่เพียงสนับสนุนการสร้างชุมชนเท่านั้น แต่ยังให้ทางเลือกที่ไม่ซ้ำใครสำหรับการแสดงออกอารมณ์และการผ่อนคลายจากความกดดันผ่านการเต้นและเทคโนโลยี
tomorrow.Lab
📍ร้านใต้ถุนบ้าน
งานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเทศกาลบูชาเสาอินทขีล ประเพณีการแสดงความเคารพเสาหลักเมืองเชียงใหม่ เป็นประเพณีที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับเมือง ผู้คนจะนำดอกไม้มาบูชาเสาอินทขีลพร้อมขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว กลุ่ม tomorrow.Lab ตีความประเพณีเก่าแก่นี้ผ่านรูปแบบของ ‘Plumbob’ เกมส์ยอดนิยมของยุค 2000 ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นปัจเจกที่หลอมรวมกันเป็นชุมชนและเมือง ผลลัพธ์คืองาน Interactive Art ที่ให้ผู้คนมามอบ ‘ดอกไม้ที่มองไม่เห็น’ จากคำพูดของเรา ให้กับเมืองเชียงใหม่เพื่อเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
Le Soleil
📍วัดชมพู
มนุษย์ - ความฝัน - เมือง เป็น 3 สิ่งที่หมุนเวียนอยู่รอบกันอย่างเเยกจากกันไม่ได้ เมื่อมนุษย์มีความฝัน มนุษย์จึงคิดสร้างเมือง และชุมชนเมืองนั้นก็ค่อยก่อกำเนิดอารยธรรม ความฝันและความทะเยอทะยานเพื่อไปสู่ความฝันนั้นนับเป็นมรดกของมนุษย์ที่ส่งต่อผ่าน DNA ตกทอดมายังรุ่นสู่รุ่น และมนุษย์ยังคงมีความทะเยอทะยานนั้นต่อไปเรื่อยๆ
อภินันทญาติ์ บัวเอี่ยม และ ดรัสวัส วัฒนโรจนานิกร
📍วัดชมพู
จุดนี้เป็นพื้นที่ที่ให้ทุกคนใช้เวลาสักห้วงเวลาหนึ่งในการพักใจ พักกาย หยุดคิดเรื่องวุ่นวาย สร้าง “สติ” เพื่อตนเอง ทุกวันนี้คนในสังคมต้องการการเยียวยาแห่งสติเพื่อลดสภาวะใจที่ว้าวุ่น เพื่อความอยู่รอดในสังคมของปุถุชน หากเราพัฒนา “สติ” ให้เป็นนิจศีล จิตจะตั้งมั่น จิตจะไม่เหนื่อย ตั้งสติให้รู้ทันใจ เมื่อนั้นแล้ว เราจะมี “สติ” เกิดเป็นสมาธิและปัญญา
KIMBAB:)
📍Brewginning
ความมีชีวิตชีวาและพลังงานของชาวเหนือถูกเปลี่ยนผ่านออกมาเป็นแสงสว่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถเคลื่อนไหวตามมือของผู้มาเยือนกำแพงแห่งนี้ได้เพื่อสร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และผลงานศิลปะ
CHAL
📍Mathana Building
ลวดลายอันทรงคุณค่าเหนือกาลเวลาของหัตถศิลป์ล้านนา ถูกตีความใหม่เป็นกล่องตั้ง ลอยเปล่งแสง อันอบอุ่น จัดวางร่วมกับสุ่มไม้ไผ่ที่กระจายแสงเงาตกกระทบไปยังพื้นที่โดยรอบ เป็นชิ้นงานที่ไม่เพียงเชิดชูวัฒนธรรมพื้นถิ่น ของภาคเหนือ แต่ยังเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงอดีตถึงปัจจุบัน และจุดประกายให้เราไตร่ตรองเกี่ยวกับการ อนุรักษ์และการชื่นชมวัฒนธรรมในอนาคตอย่างยั่งยืน
Kittithat L.
📍Mathana Building
ปรากฏการณ์ Resonance of Frequency (คลื่นสั่นพ้อง) ของเสียงต่างๆ ที่ได้ยินในตัวเมืองเชียงใหม่จะปรากฏตัวตนให้เห็นผ่าน Visualizer โดยมีดนตรีเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสราวกับว่าเสียงที่ได้ยินกระทบกับตัวเราเช่นเดียวกับที่เสียงกระทบกับสิ่งต่างๆ
ZonZon.Ztudio
📍Mathana Building
อารมณ์ของคุณมีสีอะไร? งาน Interactive Projection Mapping ชิ้นนี้จะพาผู้ชมไปสำรวจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองผ่านสีสันและรูปทรงที่คำนวนจากชีพจรหัวใจ ในทางวิทยาศาสตร์นั้น ตัวเลขชีพจรจะสามารถวัดผลได้แล้วนำมาประมวลความรู้สึกว่ารู้สึกมีความสุข มีความเศร้า โกรธ หรือ ตื่นเต้น การแสดงผลผ่านสีและรูปทรง ชวนให้ผู้ชมสามารถมองเห็นอารมณ์ของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น และอยากชวนให้ผู้ชมตระหนักว่าประสบการณ์ทางอารมณ์ของมนุษย์นั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของทุกคน
BOB the nice guy
📍Mathana Building
คาแรกเตอร์ BOB the nice guy ของ แพรว - ฉันทิศา เตตานนทร์สกุล ที่หลายคนจำได้ดี ตามเราขึ้นมาเชียงใหม่ในรูปแบบ BOB ที่เปล่งแสงได้ ‘BOB wanna glow’
Wave Pongruengkiat
📍Maplewood
การสืบชะตาเป็นประเพณีเก่าแก่ของภาคเหนือ เป็นการบูชาและตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้มีชีวิตยืนยาว ปราศจากอุปสรรค ทำกันในพิธีที่มีการจัดวางที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนัยหนึ่งสิ่งนี้ก็เปรียบเสมือนเป็นการต่อรองกับโชคชะตาด้วยพิธีกรรมและของบูชา ผลงานชิ้นนี้นำภาพจำของพิธีสืบชะตามาตีความใหม่ผ่านเทคโนโลยี เปลี่ยนสิ่งที่แข็งให้นุ่ม และเปลี่ยนสิ่งที่มั่นคงให้ลื่นไหล ภายใต้มุมมองของกระแสเวลาที่อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ และเวลาที่ไหลไปนำมาซึ่งความไร้ระเบียบที่เพิ่มขึ้นตาม เชิญชวนให้ผู้ชมนำเส้นแสงสวมหัวเสมือนในพิธีดั้งเดิม เพื่อสัมผัสความสัมพันธ์ระหว่างเราและเวลาผ่านงานศิลปะ
Krai Sridee
📍อาคารเชียงใหม่ ซอยกำแพงดิน
อาคารเก่าที่ถูกทิ้งร้างจากสภาวะเศรษฐกิจซบเซาทับซ้อน เป็นภาพสะท้อนของการเคลื่อนย้ายตัวของทุนที่คืบคลานกลืนกินอาคารใหญ่ในจุดสำคัญของเมืองมาเป็นที่ประกอบการ และเมื่อทุนเคลื่อนตัวออกไป อาคารที่ว่างจึงเหมือนเป็นช่วงเวลาสุญญากาศของตึกที่ถูกปิดไว้ ไม่เกิดผลผลิต และคนทั่วไปก็ยากจะเข้าถึง ผลงานนี้จึงจะใช้เสียงเป็นสื่อเข้าสำรวจพื้นที่ว่างในอาคารอันเกิดจากช่วงเวลาสุญญากาศเหล่านั้น ผู้ชมสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเสียงผ่านการสัมผัสอุปกรณ์ส่งเสียงแบบอะคูสติก (Acoustic) ที่สร้างเสียงจากการสั่นของโหลแก้ว ที่จะสร้างเสียงสะท้อนไปยังมุมตึกที่จะตอบรับด้วยแสงไฟที่แตกต่างกัน ผู้ชมจึงไม่เพียงจะได้ยินเสียงที่สะท้อนกลับมา
ZonZon.Ztudio
📍โรงเลื่อยท่าแพ
การใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเคารพธรรมชาติไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป เพราะทุกๆ กิจกรรมของเราส่งผลโดยตรงกับสิ่งแวดล้อม A Reflection of The Nature คืองานศิลปะที่อยากชวนให้คุณกลับมาคิดไตร่ตรองถึงวิถีชีวิตในแต่ละวัน การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของเรานั้นส่งผลกระทบที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ เช่นเดียวกับเงาสะท้อนภาพฉายขึ้นจากบ่อน้ำ
CHAL
📍ตึกท่าแพด้านหลังตลาดเพลินฤดี
ผลงานชิ้นนี้จำลองรูปแบบการแสดงออกทางสีหน้าผ่านแผงกระจก ที่สะท้อนมิติของแสงราวกับเป็นประตูที่เมื่อจ้องมองจึงจะเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่เหวลึกที่ดูเหมือนไร้ขอบเขต กระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น ความประหลาดใจ ศิลปินชวนผู้ชมมาร่วมเฉลิมฉลองความ “เหวอ!” ที่เหมือนจะไม่เกี่ยวแต่ก็เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเชียงใหม่
Peeranut Pimdee (P-NUT)
📍กำแพงลานจอดรถตลาดเพลินฤดี
เสาปริศนาเปล่งประกายในที่มืด ส่องแสงหลากรูปทรงและหลายรูปแบบ เป็น spectrum ที่สะท้อนความหลากหลายของเมืองเชียงใหม่ที่กำลังเติบโต
CHAL
📍กิติพานิช
ตาแหลว ในภาษาเหนือหมายถึง ตาเหยี่ยว เป็นเครื่องหมายทางพิธีกรรมตามความเชื่อของคนล้านนา เพื่อแสดงอาณาเขตที่มีเจ้าของ เขตหวงห้าม คนเหนือเชื่อว่าตาแหลวจะสามารถปกป้องพื้นที่นั้นให้คลาดแคล้วจากภัยพิบัติและอันตรายทั้งปวง ผลงานนี้ลดทอนปรับรื้อพิธีกรรม ‘ตาแหลวหม้อยา’ และชวนเชิญให้ผู้ชมเข้าไปอาบแสง ที่เป็นสัญลักษณ์ของอนาคตที่สว่างไสว