เปิดร้านแรกในไทยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว กับร้านพิซซ่า Gordon Ramsay Street Pizza หนึ่งในธุรกิจแฟรนไชส์ของเชฟหัวร้อน Gordon Ramsay ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลจากมาปักหมุดบนชั้น GM ณ ศูนย์การค้า Emsphere

โดย Gordon Ramsay Street Pizza ที่ไทยจะแตกต่างจากสาขาอื่นๆ ตรงที่เสิร์ฟเป็นแบบตามสั่ง a la carte ในขณะที่ปกติสาขาอื่นเขาจะเสิร์ฟแบบ all you can eat คือเสิร์ฟพิซซ่ารัวๆ ไปจนกว่าจะปักมีดบนจานที่หมายถึงหยุดเสิร์ฟเพิ่มสักที! โดยไทยถือเป็นสาขาที่ 2 ถัดจากสาขาในสนามบินที่ดูไบที่เสิร์ฟแบบนี้

โดยรวมแล้ว Gordon Ramsay Street Pizza ก็ไม่ได้ผิดคาดไปจากที่เราคิดไว้นัก ทั้งคอนเซ็ปต์แหวกแนว หน้าพิซซ่าสุดครีเอทีฟ รวมถึงมู้ดร้านสไตล์ฟาสต์ฟู้ดสุดร้อนแรงตามประสาคนเลือดร้อนแบบเชฟเจ้าของร้าน

เริ่มกันที่คอนเซ็ปต์ของร้านที่บอกว่าแหวกแนว เนื่องจากเชฟบอกว่าพิซซ่าของที่นี่คือ ‘Pizza without Rules!’ หรือ พิซซ่าไร้กฎเกณฑ์ ซึ่งก็ไร้กฎเกณฑ์จริงๆ เพราะในขณะที่ชาวอิตาลีเขาพยายามจะอนุรักษ์การทำพิซซ่าแบบดั้งเดิมที่ต้องมีประกาศนียบัตรแบบนาโปลีพิซซ่า เชฟกอร์ดอนกลับเลือกที่จะทำพิซซ่าแป้ง Sourdough เนื้อเหนียวนุ่มแผ่นบางที่เกิดจากกระบวนการหมักยีสต์ธรรมชาติในครัว ก่อนจะอบเสิร์ฟแบบชิลล์ๆ ตามสไตล์ชาวลอนดอนเนอร์

ส่วนหน้าพิซซ่าก็ไม่มีกฏเกณฑ์เช่นกัน โดยช่วงแรกนี้จะมีให้เลือกมากถึง 8 หน้า ไฮไลต์จะเป็นตัว Londoner Pizza (590 บาท) ที่หยิบเอาวัตถุดิบต่างสัญชาติอย่างมอสซาเรลล่า ซาลามี่ และบูราต้ามารวมกัน แสดงให้เห็นถึงความผสมผสานของวัฒนธรรมอาหารของชาวลอนดอน และ Corn & Chorizo (450 บาท) ที่แปลกตั้งแต่เอาข้าวโพดหวานไปทำเป็นครีมปาดบนแป้งพิซซ่า แล้วค่อยตัดเลี่ยนด้วยความเค็มของโชริโซ่จากสเปน และเนื้อไก่ฉีก เราค่อนข้างติดใจถาดนี้เป็นพิเศษ เพราะยังไม่เคยเห็นคนทำ และพอกินรวมๆ กันคืออร่อย

สิ่งที่น่าประทับใจแบบเกินความคาดหมาย คือ side dish อย่าง G.F.C Dirty Fries (190 บาท) ไก่ทอดเท็กซ์เจอร์กรอบฉ่ำว้าว ราดซอส G.F.C ที่ย่อมาจาก Gordon Fried Chicken ซึ่งรสชาติอร่อยสมมงการเอาชื่อตัวเองมาตั้งชื่อซอส ส่วนถ้าใครอยากลองเมนูไก่ทอดตัวอื่น ที่นี่ก็มีทั้ง ไก่ทอดซอสช็อคโกแลตบาร์บีคิว และ ไก่ทอดซอสเผ็ดแบบ Hotter Than Hell ที่เผ็ดในระดับแค่นรกขุมแรกสำหรับคนไทยเท่านั้น

นอกนั้นที่นี่ยังเสิร์ฟทั้งค็อกเทล ไวน์ และมิลก์เชกไว้ให้แก้เลี่ยนเมนูคาร์บหนักๆ ด้วย ที่เราชอบจะเป็นตัว Hard Lemonade (220 บาท/แก้ว และ 1,290 บาท/เหยือก) เครื่องดื่มสไตล์รีเฟรชชิ่งที่เปรี้ยวจี๊ดตาแตกสมชื่อดริ้งก์ เบสเป็นวอดก้าและเลมอนเชลโล ซึ่งถ้ามากับเพื่อนก็สั่งแบบเหยือกมาเลย คุ้มสุดๆ