อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ | Photo: I Stock Photo

กทม. เตรียมเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง

โดยตั้งเป้าให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมือง Car Free Everyday ไม่ใช่เฉพาะ Car Free Day ที่เกิดขึ้นปีละครั้ง

23 ก.ย. 2568

ทุกวันนี้หากเราโดยสารรถไฟฟ้า BTS มาลองที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเชื่อมต่อด้วยรถโดยสารสาธารณะทั้งรถประจำทาง หรือรถตู้ เราจำเป็นต้องใช้สกายวอล์กที่สามารถเดินไปเพียงฝั่งเดียวหรือครึ่งรอบของอนุสาวรีย์ชัยฯ แต่อีกฟากฝั่งเราจำเป็นต้องใช้สะพายลอยเดินขึ้นลงถึง 2 แยก เพื่อไปยังปลายทาง ซึ่งเป็นดีไซน์เดิมตั้งแต่ก่อสร้างอนุสาวรีย์เมื่อ 80 ปี ก่อน หรือช่วง 20 ปี หลังจากมีการสร้างสกายวอล์กเชื่อมรถไฟฟ้าไปยังคิวรถตู้ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ตอบโจทย์กับคนเมืองที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะ รวมถึงความปลอดภัยในการใช้ท้องถนนบริเวณโดยรอบ

ล่าสุด กทม. ได้เตรียมเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง โดยตั้งเป้าให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมือง Car Free Everyday ไม่ใช่เฉพาะ Car Free Day ที่เกิดขึ้นปีละครั้ง (หรืออาจจะไม่เคยเกิดขึ้นจริงสักวันเดียว) ซึ่งทางกทม. ได้วางแผนที่จะปรับปรุงพื้นที่โดยรอบภายใต้แนวคิดของ Universal Design ที่การออกแบบครั้งใหม่นี้จะทำให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น เด็ก คนแก่ หรือคนพิการ

โดยไอเดียของการปรับปรุงครั้งนี้ยังอยู่ที่การนำ 'พฤติกรรมของผู้ใช้งาน' เป็นตัวตั้งในการออกแบบพื้นที่สาธารณะ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ารอบอนุสาวรีย์ชัยฯ มีความสับสนวุ่นวายของทั้งเกาะลอยด้านนอก และป้ายรถประจำทางด้านใน ซึ่งการจัดการเรื่องการเดินรถเองก็มีส่วนช่วยด้วย

ซึ่งหลักการที่ กทม. นำมาใช้คือหลักการทางผังเมือง ภูมิสถาปัตย์ และการขนส่ง ประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อนำไปสู่การขึ้นรถง่ายขึ้น มีหลังคาคลุมทางเดินที่ช่วยป้องกันแดดฝน ระยะทางในการเดินที่สั้นที่สุด เพิ่มพื้นที่ทางเท้า เพิ่มทางม้าลาย เพิ่มต้นไม้และพื้นที่สีเขียว พร้อมสะพานลอยที่เชื่อมทั้ง 4 เกาะ รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ และสกายวอล์กราชวิถี ที่เชื่อม 8 โรงพยาบาล ตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยฯ ถึงแยกตึกชัย นอกจากนี้พื้นที่จอดรถเมล์ใหม่ก็จะได้รับการปรับใหม่ทั้งหมด เพื่อลดความหนาแน่นในจุดเดียว

หาก กทม. ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้จริงตามที่แจ้งมา จะทำให้อนุสาวรีย์ชัยฯ กลายเป็นต้นแบบของสถานที่อื่น และกลายเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ที่เชื่อมต่อด้วยสกายวอล์กโดยรอบอย่างสมบูรณ์ (ก่อนหน้านี้มีครึ่งเดียวไล่ไปตามรางรถไฟฟ้า) เพื่อให้การเดินและการเปลี่ยนเส้นทางขนส่งมวลชนเป็นไปอย่างราบรื่น และนำไปสู่การไม่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในอนาคต


SHARE

Link Copied!

บทความที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
logo
Follow us
About us

Careers

Contact us

Privacy Policy

Terms of use

Manage cookies