เพราะกรุงเทพฯ คือเมืองศิลปะ ทุกตรอกซอกซอยในเมืองหลวงแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยพื้นที่ศิลปะที่รอให้ทุกคนออกไปสัมผัส ไปเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจ ไปฮีลใจ หรือไปเดินเล่นดื่มด่ำกับสุนทรีภาพของงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราได้สำรวจทุกโซนทุกซอยของกรุงเทพฯ และมัดรวมอาร์ตแกลเลอรีที่น่าสนใจมาให้ทุกคนแล้ว 65 แห่งด้วยกัน เปิดแมปแล้วตามไปได้เลย
แหล่งรวมงานศิลปะบนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ที่ชั้น 2 และ 3 ของซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ถือเป็นฮับศิลปะฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่แท้จริง เพราะในพื้นที่เดียวกันนี้รวมไว้ทั้งพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะที่มีนิทรรศการหมุนเวียนให้ชมตลอดทั้งปี รวมถึงมี Art Library ห้องสมุดเฉพาะทางสำหรับคนรักศิลปะ และ Creative Workshop ให้ทุกคนได้สนุกกับกิจกรรมสร้างสรรค์อีกมากมาย
หอศิลป์ศุภโชค ดิ อาร์ต เซ็นเตอร์ (Subhashok The Arts Centre) หรือ SAC Gallery คืออาร์ตแกลเลอรีในซอยสุขุมวิท 39 ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย ศุภโชค อังคสุวรรณศิริ นักสะสมงานศิลปะ ด้วยความตั้งใจอยากให้ศิลปะเข้าใกล้ผู้คนมากขึ้น และสร้างพื้นที่สนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ของไทยให้มีโอกาสพัฒนาผลงานและเติบโตในสายอาชีพ โดยพาศิลปินไทยไปเปิดโลกในเวทีศิลปะระดับนานาชาติ เปิดโครงการพำนักศิลปินที่เชียงใหม่ และยังคงจัดนิทรรศการเดินทาง เพื่อให้ศิลปะเข้าถึงคนไทยได้ในวงกว้าง
อาร์ตแกลเลอรีแห่งนี้ก่อตั้งโดย อรรคพล สุทัศน์ ณ อยุธยา และ ศุภมาศ พะหุโล เป็นพื้นที่ศิลปะที่เปิดรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความคิดโดยให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุนศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในระยะยาว โดยไม่ยึดติดกับลำดับชั้นของรูปแบบหรือแนวคิดทางศิลปะ ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกสิ่งมีคุณค่าเท่ากัน งานจัดแสดงของที่นี่มักเกิดจากการพูดคุยและการค้นคว้าร่วมกับศิลปิน แต่ละโปรเจ็กต์จึงสะท้อนลักษณะเฉพาะตัวของศิลปินแต่ละคนอย่างชัดเจน นอกจากนิทรรศการแล้ว ยังมีความร่วมมือกับศิลปินที่ทำงานด้านการพิมพ์ในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art & Culture Centre) หรือ BACC คือพื้นที่ศิลปะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณแยกปทุมวัน เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2552 เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยที่อยู่ภายใต้ความดูแลของมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยการจัดตั้งและสนับสนุนหลักจาก กทม.
พื้นที่ภายในมีทั้งหมด 10 ชั้น โดยมีห้องสมุดศิลปะอยู่ที่ชั้น L และตั้งแต่ชั้น 1-6 เป็นพื้นที่ของร้านค้าศิลปะ คาเฟ่ ห้องประชุม ห้องอเนกประสงค์ ห้องออดิทอเรียม สตูดิโอ ห้องนิทรรศการย่อย และสำนักงาน ส่วนห้องนิทรรศการหลักจะอยู่ที่ชั้น 7-9 ซึ่งมีนิทรรศการหมุนเวียนมาให้ชมตลอดทั้งปี
Saratta ตั้งอยู่ในโรงแรม Reno Hotel ซอยเกษมสันต์ 1 เป็นพื้นที่ศิลปะใจกลางเมืองที่เกิดจากความรักและความเชื่อในพลังของศิลปะของ พัทธมน นิศาบดี นักออกแบบภาพ ที่นี่รวบรวมผลงานศิลปะต้นฉบับและงานพิมพ์ลิมิเต็ดของทั้งศิลปินไทยและต่างประเทศ โดยคัดสรรมาให้ชมอย่างต่อเนื่อง
JWD Art Space อยู่ในซอยจุฬาลงกรณ์ 16 ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดยกลุ่ม JWD ที่มีประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนกว่า 40 ปี ที่นี่จึงเป็นทั้งพื้นที่จัดเก็บและดูแลงานศิลปะ รวมถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการทั้งจากศิลปินไทยและต่างประเทศ
อีกหนึ่งพื้นที่ศิลปะในย่านอารีย์ (ซอยอารีย์ 5 ฝั่งเหรือ) ที่เราอยากแนะนำให้คนรักศิลปะรู้จัก ที่นี่ก่อตั้งโดย นำทอง แซ่ตั้ง อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการหอศิลป พีระศรี และคลุกคลีในแวดวงศิลปะมายาวนาน โดย Numthomg Art Space เป็นทั้งพื้นที่จัดจำหน่ายงานศิลปะร่วมสมัยที่ผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันด้วยสายตาและประสบการณ์ของนำทองเอง
นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่เปิดให้ศิลปิน นักสะสม ภัณฑารักษ์ และคนรักศิลปะได้มาเจอกัน พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด รวมถึงมีห้องสมุดที่เต็มไปด้วยแคตตาล็อกนิทรรศการจากทั่วโลกที่นำทองเก็บสะสมมานานหลายสิบปีให้ทุกคนเข้าไปอ่าน และพื้นที่สำหรับจัดเวิร์กช็อปศิลปะ
6060 Arts Space อยู่ในซอยประดิพัทธ์ 21 เป็นพื้นที่ศิลปะที่เปิดประตูต้อนรับศิลปินหลากหลายแขนงให้ใช้พื้นที่นี้แสดงผลงาน ซึ่งมีทั้งการจัดแสดงนิทรรศการภาพวาด ภาพถ่าย งานศิลปะภาพพิมพ์ ศิลปะการแสดง และเวิร์กช็อปต่างๆ
สตูดิโอและอาร์ตแกลเลอรีของ Rudy Meyer ศิลปินป๊อปอาร์ตชาวฝรั่งเศส ผู้ใช้เวลากว่า 15 ปีเดินทางไปมากกว่า 120 ประเทศ เพื่อดื่มด่ำกับโลกศิลปะในแกลเลอรี สตูดิโอ และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก ผลงานของเขามักอยู่ในรูปแบบของซีรีส์ที่ผสมผสานป๊อปอาร์ตเข้ากับเรื่องราวเชิงกวี โดยหยิบเอาไอคอนของยุคสมัย ของเล่น และแบรนด์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันมานำเสนอในมุมที่ทั้งสวยงามและชวนคิด
Jim Thompson Art Center คือพื้นที่ร่วมสมัยใจกลางกรุงเทพฯ เป็นอาคารสูง 4 ชั้นที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดสถาปัตยกรรมสไตล์ทรอปิคัลที่เน้นการไหลเวียนอากาศและความยั่งยืน ด้านหน้าโดดเด่นด้วยอิฐลายผ้ามัดหมี่ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมไทย ออกแบบโดย สถาปนิกจากบริษัทดีไซน์-กว่า จำกัด (Design Qua)
ชั้น G มีคาเฟ่ Artzy และร้านของที่ระลึก JTAC Museum Shop บนชั้น 2 เป็นห้องสมุด William Warren พร้อมพื้นที่จัดเวิร์กช็อป ส่วนชั้น 3 คือโซนนิทรรศการหลักที่แบ่งเป็น Gallery 1 & 2 สำหรับจัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยจากไทยและนานาชาติ และชั้นบนสุดคือดาดฟ้าเปิดโล่งชมวิวเมือง เหมาะกับการพบปะและพักผ่อน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของร้านลาบเสียบ
Rebel Art Space คือพื้นที่ศิลปะที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 67 ย่านพระโขนง ที่เน้นนำเสนอผลงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางสังคม และโปรเจ็กต์ที่ตั้งคำถามต่อระบบหรือกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม
Palette Artspace พื้นที่ศิลปะที่อยู่ติดกับบีทีเอสทองหล่อ ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดย วรรษญสิน ชาร์ ด้วยแนวคิดที่จะรวมศิลปะร่วมสมัย ศิลปะดิจิทัล และของสะสมในโลกศิลปะที่มีลูกเล่นคล้ายของเล่นไว้ในพื้นที่เดียวกัน มีคาเฟ่อยู่ที่ชั้น 1 และแกลเลอรียังมีโครงการศิลปะของตัวเองอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ White Canvas Thailand การประกวดศิลปะสำหรับเด็กและเยาวชนเพื่อสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ และโครงการช้างหนึ่งล้านตัว ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการดูแลช้างไทยที่แก่ชราหรือเจ็บป่วย
Richard Koh Fine Art ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดยมีพื้นที่จัดแสดงทั้งในสิงคโปร์และกรุงเทพฯ เป็นอาร์ตแกลเลอรีที่คัดเลือกศิลปินที่อาจยังไม่เป็นที่รู้จักแต่มีศักยภาพมาแนะนำให้คนรักศิลปะรู้จักเพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินเติบโตผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ นอกจากนั้นแกลเลอรียังเชื่อมโยงคอมมูนิตีศิลปะผ่านการจัดนิทรรศการอย่างสม่ำเสมอ การตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ทั้งในรูปแบบดิจิทัลและสิ่งพิมพ์จริง นอกจากพื้นที่จัดแสดงจริงใน 2 ประเทศแล้ว แกลเลอรียังมีช่องทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Artsy และ Artling ที่ช่วยขยายการเข้าถึงศิลปะไปได้ไกลยิ่งขึ้นอีกด้วย
อาร์ตแกลเลอรีที่อยู่ชั้น 4 อาคาร Pachara Place (พัชรเพลส) ซอยสุขุมวิท 31 ที่นี่นำเสนอผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินระดับนานาชาติควบคู่ไปกับศิลปินรุ่นใหม่จากชุมชน ด้วยความตั้งใจที่อยากศูนย์รวมของคนสร้างสรรค์ในท้องถิ่น แกลเลอรีแห่งนี้จึงเปรียบเหมือนเวทีที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับโลกผ่านศิลปะ วัฒนธรรม และบทสนทนา
ศูนย์รวมงานศิลปะและของแอนทีคริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปิดพื้นที่ให้คนรักศิลปะและนักสะสมได้เดินชมแกลเลอรีกว่า 20 แห่ง บนพื้นที่ทั้ง 4 ชั้น ซึ่งมีทั้งนิทรรศการของศิลปินระดับนานาชาติและศิลปินไทยมาให้ดูอยู่ตลอดทั้งปี พร้อมกิจกรรมศิลปะหลากหลายรูปแบบที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดคุยกับศิลปิน ร่วมฟังเสวนา ดูหนัง ฟังดนตรีสด ร่วมประมูลของสะสม หรือเรียนรู้วงการศิลปะร่วมสมัยของไทยได้แบบเข้าถึงง่าย นอกจากนั้น River City Bangkok ยังได้ปรับตัวให้กลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับผู้ที่สนใจศิลปะในทุกมิติ และยังเป็นส่วนหนึ่งของ Creative District ที่กำลังเติบโตในกรุงเทพฯ
อาร์ตแกลเลอรีร่วมสมัยอีกแห่งในย่านเจริญกรุงที่อยู่ในโครงการ Warehouse 30 โดยเป็นโปรเจ็กต์ของ แนน-ธริศา วานิชธีระนนท์ ที่นำเสนอศิลปะด้วยมุมมองใหม่คนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับโลกศิลปะร่วมสมัยโดยเน้นการสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ให้มีเวทีแสดงผลงาน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายกับแกลเลอรีอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนวงการศิลปะไทยให้เติบโตอย่างมีพลัง
Bangkok Kunsthalle ตั้งอยู่ในอาคารไทยวัฒนาพานิช ซึ่งเคยเป็นโรงพิมพ์ชั้นนำแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ก่อนจะถูกทิ้งร้างหลังเกิดเหตุไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2544 และถูกชุบชีวิตให้กลายเป็นพื้นที่ศิลปะเชิงทดลองที่ขับเคลื่อนโดยกลุ่มศิลปินตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปจนถึงการสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อนำเสนอต่อสังคม เน้นนำเสนอผลงานหลากหลายรูปแบบของศิลปินทั้งชาวไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นงานภาพยนตร์ ดนตรี ภาพถ่าย ศิลปะการแสดง วรรณกรรม สถาปัตยกรรม และงานศิลปะแนวทดลองอื่นๆ โดยจะจัดนิทรรศการประมาณ 4 ครั้งต่อปี
Over The Influence Bangkok หรือ OTI Bangkok คือแกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยที่เปลี่ยนอาคารเก่าใกล้วงเวียนโอเดียน เยาวราช ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะระดับโลกที่หมุนเวียนตลอดทั้งปี ทั้งผลงานจากศิลปินระดับโลกและศิลปินไทยหน้าใหม่ที่น่าจับตา โดยพื้นที่ทั้ง 5 ชั้นถูกออกแบบให้รองรับงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาด กราฟิก ไปจนถึงงานจัดวางและศิลปะเชิงทดลอง เน้นนำเสนอศิลปะที่เข้าถึงง่ายแต่ทรงพลัง รวมถึงมีพื้นที่บนดาดฟ้าซึ่งใช้เป็นพื้นที่กิจกรรมพิเศษและชมวิวเมือง
The Shophouse 1527 คือโปรเจ็กต์ทดลองที่เปลี่ยนตึกแถวเก่าเลขที่ 1527 กลางชุมชนสามย่าน ให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ชั่วคราว โดยทีม Cloud-floor และ IF (Integrated Field) อาคารมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นบาร์เครื่องดื่มที่ออกแบบเมนูตามธีมนิทรรศการ ส่วนชั้น 2 และ 3 ใช้จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน เปิดพื้นที่ให้ศิลปิน สถาปนิก และครีเอทีฟจากหลากวงการมาทดลองแนวคิดใหม่ๆ ผ่านผลงานศิลปะจัดวาง เสียง และสื่อผสมหลากรูปแบบ
อาร์ตแกลเลอรีในซอยสีลม 21 ที่ให้ความสำคัญทั้งกับศิลปินรุ่นใหญ่ที่มีชื่อเสียงและศิลปินรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเน้นนำเสนองานศิลปะร่วมสมัยแนวจิตวิญญาณและนีโอคอนเทมโพลารีเป็นหลัก
พื้นที่สร้างสรรค์ที่เป็นส่วนหนึ่งของตึกสำนักงานโนเบิล เพลินจิต ถูกเปลี่ยนจากโชว์รูมขายอสังหาริมทรัพย์เป็น Inspiration Playground สำหรับคนเมือง โดยพื้นที่ชั้นล่างประกอบด้วย Art Space ที่เปิดให้ศิลปินร่วมสมัยแสดงผลงาน, พื้นที่ Workshop รองรับกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์, Co-working สำหรับนั่งทำงานแบบชิลๆ, และร้าน Toby’s ที่เสิร์ฟบรันช์ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ส่วนชั้นบนมี Pop-up Cafe หมุนเวียนแบรนด์กาแฟใหม่ทุกสองเดือน และ Curated Store ที่ขายของดีไซน์เท่จากคนทำงานสร้างสรรค์
คอมมูนิตีศิลปะที่อยู่ในซอยนราธิวาส 22 ก่อตั้งโดย ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช ศิลปินร่วมสมัยไทย ภายในเป็นที่ตั้งของอาร์ตแกลเลอรีหลายแห่ง ได้แก่ Gallery VER, Tentacles, Cartel, La Lanta Fine Art, VS Gallery, Mads Box รวมถึงมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมศิลปะและเวิร์กช็อป สตูดิโอของศิลปิน และคาเฟ่
แกลเลอรีภาพถ่ายแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านถนนปั้น ใกล้กับวัดศรีมหาอุมาเทวี หรือ วัดแขก ก่อตั้งโดย มานิต ศรีวานิชภูมิ ศิลปินภาพถ่ายระดับแถวหน้าของไทย ตัวอาคารเป็นตึกแถวเก่าที่ได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถัน โดยได้แรงบันดาลใจจากร้านถ่ายรูปในอดีต ที่ผู้คนสามารถเดินเข้าไปเลือกชมภาพถ่ายที่มีลายเซ็นศิลปินได้อย่างอิสระ
ชั้นล่างของแกลเลอรีคือพื้นที่จัดแสดงผลงานของมานิต ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียนของศิลปินทั้งหน้าเก่าและใหม่ รวมถึงโปรเจกต์ Seeking Forgotten Masters of Photography ที่ชวนค้นหาช่างภาพที่โลกลืม พร้อมโซนหนังสือที่มีทั้งงานศิลปะ ภาพถ่าย และหนังสือสายจิตวิญญาณเกี่ยวกับศาสนาฮินดู พุทธ ตันตระ ชามาน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (Museum of Contemporary Art) หรือ MOCA Bangkok คือพื้นที่ศิลปะที่เกิดขึ้นจากความหลงใหลในศิลปะของ บุญชัย เบญจรงคกุล เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 และระลึกถึงศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ตัวอาคารโดดเด่นด้วยดีไซน์เสมือนแกะสลักจากหินแกรนิตทั้งก้อน ด้านหน้าประดับด้วยลวดลายดอกมะลิที่เปิดช่องให้แสงธรรมชาติลอดผ่าน กลายเป็นลวดลายที่สะท้อนบนพื้น ชวนให้รู้สึกถึงความงามที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ทั้งหมดนี้เป็นการผสมผสานศิลปะร่วมสมัยกับความเป็นไทยอย่างวิจิตรและทรงพลัง
อาร์ตแกลเลอรีที่ด้านหน้าดูคล้ายกล่องสีขาวแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านเพลินจิต ก่อตั้งโดย คิด จิรชัยสกุล ศิลปินภาพพิมพ์ ผู้มีแรงบันดาลใจอยากให้พื้นที่นี้เป็นที่ที่ทุกคนสามารถหายตัวไปกับงานศิลปะได้ ตัวอาคารภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายเรียบคม โทนสีขาวสะอาดตา สื่อถึงความเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ภายในออกแบบให้มีทางเดินต่อเนื่องทำให้สามารถชมงานศิลปะได้อย่างไม่ขาดตอน ที่นี่จะจัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียนทั้งจากศิลปินไทยและต่างประเทศ ไม่จำกัดแนวหรือรูปแบบ โดยมุ่งให้เป็นพื้นที่แสดงตัวตนและวิธีคิดของศิลปินอย่างแท้จริง
KICH Gallery จากเพลินจิตขยายสาขาสู่ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ House of Tempo คอมมูนิตี้แนวตั้งสำหรับชาวอารีย์ที่อยู่ในทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น บรรยากาศโฮมมี ภายในมีทั้งร้านวินเทจสโตร์ ร้านอาหารและโฮมบาร์ รวมถึงอาร์ตแกลเลอรีใหม่เอี่ยมแห่งนี้
KICH Ari Space โดดเด่นเรื่องการหยิบเอางานศิลปะของศิลปินรุ่นใหม่ในเมืองไทยมาจัดแสดงในมู้ดอบอุ่นและเป็นกันเองที่จะเห็นได้จากอินทีเรียภายในที่เลือกใช้ไม้สีเข้มแทนการบุผนังด้วยสีขาวล้วนเหมือนแกลเลอรีปกติ รวมถึงการเพิ่มกิจกรรมต่างๆ มาให้ทำระหว่างดูงานศิลปิน ทั้งการร่วมระบายสีภาพกับศิลปิน และเวิร์กช็อปต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ของ New Generation Artists ที่แท้ทรู ซึ่งเอาจริงๆ แล้วก็เหมาะกับย่านอารีย์ที่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของคนรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งกรุงเทพมหานครมากๆ
อาร์ตแกลเลอรีและโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ร่วมสมัยในซอยลึกย่านพระโขนง เดิมทีอาคารคอนกรีตสูง 7 ชั้นแห่งนี้เคยเป็นโกดังเก่า ก่อนถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ จุดเด่นของอาคารคือฟาซาดแบบพิกเซลที่ช่วยนำแสงธรรมชาติสู่ภายใน ออกแบบโดย Jun Sekino สถาปนิกจาก Junsekino Architect and Design
ชั้น 1 ของอาคารเปิดเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียนควบคู่กับโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางร่วมกับงานศิลปะเสมือนเป็นเพื่อนร่วมพื้นที่ ไม่ใช่เพียงของตกแต่ง ชั้น 2 เป็นออฟฟิศผสานโชว์รูม ส่วนชั้น 3-4 ใช้เป็นสำนักงาน และชั้น 5-6 แสดงสินค้าครบทุกประเภทของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Wurkon โดยมีคอนเซ็ปต์สำคัญคือการลบเส้นแบ่งระหว่างศิลปะ การออกแบบ และผู้คน
อาร์ตแกลเลอรีบนถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ที่จัดแสดงผลงานศิลปะแนว Urban Art และในพื้นที่เดียวกันนี้ยังมีคาเฟ่ Colorist Cafe x Paint ที่นอกจากจะเสิร์ฟเครื่องดื่มและขนมแล้ว ยังมีเวิร์กช็อปศิลปะให้นั่งทำด้วย หรือมองใครหาที่นั่งทำงานเงียบๆ ก็มี co-working space อยู่บนชั้น 2 ที่สามารถนั่งได้ตลอดทั้งวัน
Warin Lab Contemporary คือพื้นที่ศิลปะที่อยู่ในบ้านเก่าอายุกว่าร้อยปีของ หมอบุญส่ง เลขะกุล ที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นทั้งนักอนุรักษ์ธรรมชาติ นักปักษีวิทยา และเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย (Bird Conservation Society of Thailand) หรือ BCST แกลเลอรีแห่งนี้ก่อตั้งโดย สุคนธ์ทิพย์ นาคเกษม มีแนวทางชัดเจนในการนำเสนอผลงานศิลปะร่วมสมัยที่ตั้งคำถามกับปัญหาสังคมระดับโลก โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2021 ได้นำเสนอผลงานศิลปะที่ว่าด้วย ‘สิ่งแวดล้อม’ ผ่านหลากหลายมุมมองของศิลปิน เพราะเชื่อว่านี่คือประเด็นที่เราทุกคนเกี่ยวข้องโดยตรงและต้องร่วมกันหาทางออก และเชื่อว่าศิลปะคือพลังที่กระตุ้นให้สังคมก้าวไปข้างหน้าได้ นอกจากนิทรรศการศิลปะ พื้นที่แห่งนี้ยังจัดเวิร์กช็อป เสวนา และกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจในวงกว้างและจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
พื้นที่ศิลปะที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 84 มีทั้งพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน พร้อมโซนเวิร์กช็อปศิลปะ และพื้นที่รองรับกิจกรรมศิลปะทุกรูปแบบ
อาร์ตแกลเลอรีและพื้นที่สร้างสรรค์ที่อยู่ติดกับ Bangkok Graffiti Park ใกล้บีทีเอสราชเทวี (ทางออก 2) ใช้เวลาเดินแค่หนึ่งนาทีก็ถึง ที่นี่มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการถึง 3 ชั้น เปิดให้ชมผลงานของศิลปินร่วมสมัยรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ทั้งจากไทยและต่างประเทศ
ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราว 1,500 ตารางเมตรของโครงการท่าช้างวังหลวง ใกล้วัดพระแก้วและท่าเรือท่าช้าง โดยเกิดขึ้นจากความตั้งใจของคู่สามีภรรยา พิริยะ-กรกมล วัชจิตพันธ์ ผู้ก่อตั้ง The Art Auction Center ที่ต้องการสร้างแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ศิลปะสมัยใหม่ของไทยใจกลางเมืองบนพื้นที่ที่รองรับการจัดแสดงงานศิลป์อย่างเต็มรูปแบบ
นี่คืออาร์ตเฮาส์แห่งแรกๆ บนถนนทรงวาดที่อยู่มาก่อนกาล ตั้งแต่ยุคต้นๆ ที่เหล่าคนรุ่นใหม่เริ่มย้ายมาลงหลักปักฐานสร้างกิจการในแห่งนี้ โดย PLAY art house จะมีนิทรรศการศิลปะใหม่ๆ หมุนเวียนไปเรื่อยๆ ในทุกช่วงเดือน สามารถเข้าชมฟรี
พื้นที่ศิลปะที่ก่อตั้งโดย 2 ศิลปินไทยอย่าง อธิศว์ ศรสงคราม และ แพร พู่พิทยาสถาพร ที่เริ่มจากการเป็นพื้นที่เก็บผลงานศิลปะของทั้งสองคน ก่อนจะปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการชั่วคราว กิจกรรม และวงสนทนา ที่เปิดกว้างต่อความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในโลกศิลปะ โดยโปรแกรมต่างๆ ของ Storage Art Space อยู่ภายใต้การดูแลของภัณฑารักษ์อิสระ แมรี่ ปานสง่า และ สถิตย์ ศัสตรศาสตร์ ศิลปินและภัณฑารักษ์ ที่ร่วมขับเคลื่อนพื้นที่นี้ด้วยแนวทางเฉพาะตัว
หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร (Art Centre Silpakorn University) ตั้งอยู่ที่วิทยาเขตวังท่าพระ โดยใช้ท้องพระโรงและพระตำหนักกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีในฐานะอาคารประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย และได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2521 เป็นหอศิลป์เพื่อส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยผ่านการจัดนิทรรศการและกิจกรรมด้านศิลปะ
แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2018 สนับสนุนทั้งศิลปินรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่จากทั้งไทยและต่างประเทศ มีพื้นที่จัดแสดงกว่า 3,500 ตารางฟุต แบ่งเป็น 2 ห้องหลัก ที่นี่มีทีมภัณฑารักษ์ที่มากประสบการณ์ และเน้นนำเสนอผลงานผ่านนิทรรศการที่คัดสรรมาอย่างดี เพื่อให้เข้าถึงทั้งนักสะสมและคนรักงานศิลปะ ภายใต้แนวคิด joy & Join ที่สะท้อนความสนุก ความร่วมสมัย และความเชื่อมโยงระหว่างศิลปินกับผู้ชม
ผลงานศิลปะที่จัดแสดงหลากหลาย ตั้งแต่ Urban Art, Street Art, Pop & New Surrealism, Contemporary Abstract ไปจนถึงงานดิจิทัลและสื่อผสมต่างๆ โดยเน้นการสื่อสารกับโลกยุคใหม่และวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองผ่านนิทรรศการในแกลเลอรีและอาร์ตแฟร์ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี
Old Town Gallery เปิดตั้งแต่ปี 2020 จัดแสดงผลงานของศิลปินหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นนักวาดการ์ตูน ศิลปินสตรีตอาร์ต ศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินอิสระ โดยต้องการเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่ชวนทุกคนไปสำรวจและเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านงานศิลปะ รวมถึงสนับสนุนให้ศิลปินหน้าใหม่ได้เติบโต และเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงผู้คนในแวดวงศิลปะ
หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา อาร์ตแกลเลอรีริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ใกล้สวนสันติชัยปราการและป้อมพระสุเมรุ ย่านถนนพระอาทิตย์ ตัวอาคารเป็นบ้านทรงปั้นหยาสมัยเก่า ที่เคยเป็นทั้งตำหนักในวังของพระองค์เจ้าเนาวรัตน์ พระราชโอรสของรัชกาลที่ 4 ที่ประทับของพระองค์เจ้าคำรบ ปราโมช (อธิบดีกรมตำรวจนครบาลคนแรกของไทย) ที่พักรับรองแขกเมือง และที่ทำการกรมตำรวจภูธรก่อนจะถูกทิ้งร้าง
ปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ได้เข้ามาบูรณะและอนุรักษ์บ้านเจ้าพระยาแห่งนี้ให้กลายเป็นพื้นที่ศิลปะและการเรียนรู้ โดยใช้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานจากการประกวดศิลปกรรม ปตท. รวมถึงนิทรรศการหมุนเวียนของศิลปินทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังมีคาเฟ่เล็กๆ ที่น่าสนใจอย่าง Café Amazon for Chance ที่มีผู้พิการทางการได้ยินเป็นบาริสต้าเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนในสังคมได้มีพื้นที่ของตัวเอง
10 10 Art Space คืออาร์ตแกลเลอรีที่เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม The StandardX บนถนนพระอาทิตย์ที่นำเอาเอกลักษณ์ศิลปะและวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ มาใส่ไว้ในทุกห้องพักจำนวน 62 ห้อง รวมถึงการเปลี่ยนพื้นที่ล็อบบีให้กลายเป็นอาร์ตแกลเลอรีที่นำเสนองานศิลปะแบบหมุนเวียนที่ต้อนรับทั้งผู้เข้าพักและคนทั่วไป ที่นี่ตั้งใจจะเป็นอีกแรงในการขับเคลื่อนวงการศิลปะร่วมสมัย ผ่านผลงานของศิลปินไทยที่พร้อมก้าวสู่เวทีโลก ท่ามกลางบรรยากาศของถนนสายวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
อาร์ตแกลเลอรี่เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในบ้านไม้เก่าสไตล์ขนมปังขิงอายุเกือบ 150 ปี ในตรอกตึกดิน ตัวบ้านเคยเป็นบ้านของเพื่อนสนิทเจ้าของแกลเลอรีที่โตมาด้วยกัน ทำให้มีความผูกพันกับสถานที่เพราะมา นั่งเล่นที่นี่เป็นประจำตั้งแต่ยังเด็ก จนวันหนึ่งได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เลยเกิดไอเดียปัดฝุ่นบ้านที่ถูกปิดไว้นานกว่า 20 ปีให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ร่วมกัน
แรกเริ่มตั้งใจจะตั้งชื่อว่า ‘บ้านไม้ขาว’ ตามลักษณะบ้านไม้ที่ปลูกต้นไม้ดอกสีขาวล้อมรอบ แต่สุดท้ายเปลี่ยนเป็น ‘พยัคฆ์’ เพราะบ้านอยู่ใกล้ศาลเจ้าพ่อเสือ และบังเอิญผู้ก่อตั้งทั้งสามคนมีรอยสักเสือเหมือนกันหมด แถมลายฉลุบนบ้านยังคล้ายลายหน้าผากเสืออีกต่างหาก
พื้นที่แกลเลอรีแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างมี ‘ห้องบ้านไม้ขาว’ ที่จัดแสดงของใช้ของคุณย่าเจ้าของบ้านเดิม กับ ‘ห้องพยัคฆ์พาณิชย์’ ซึ่งเป็นช็อปขายของที่ระลึกและผลงานศิลปิน ส่วนชั้นบนเป็นห้องจัดแสดง 4 ห้อง ตั้งชื่อตามชนิดของเสือ ได้แก่ สมิง, โคร่ง, พาดกลอน และลายเมฆ
นอกจากนั้นยังปรับพื้นที่รอบๆ บ้านให้กลายเป็นสวนสำหรับจัดอีเวนต์กลางแจ้ง และบ้านพักศิลปิน รวมถึงมีคาเฟ่และบาร์เล็กๆ ด้วย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป (The National Gallery) หรือที่หลายคนคุ้นในชื่อ ‘หอศิลปเจ้าฟ้า’ ตั้งอยู่บนถนนเจ้าฟ้า ย่านพระนคร เดิมทีพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นตำหนักของเจ้านายฝ่ายวังหน้า ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และเป็นที่มาของชื่อถนนเจ้าฟ้าในปัจจุบัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการรื้อถอนตำหนักเพื่อสร้างโรงกษาปณ์แห่งใหม่ชื่อ ‘โรงกษาปณ์สิทธิการ’ เพื่อใช้ผลิตเหรียญกษาปณ์ของประเทศจนถึงปี พ.ศ. 2517
ต่อมากรมศิลปากรได้ขอใช้พื้นที่ของโรงกษาปณ์เก่าเพื่อปรับเป็นหอศิลป์แห่งชาติ สำหรับจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินไทยและต่างชาติ และเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2520 จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อจาก ‘หอศิลป์แห่งชาติ’ เป็น ‘พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป’ ตาม พ.ร.บ. โบราณสถานฯ และเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในปี พ.ศ. 2521 พร้อมขยายพื้นที่จัดแสดงในปี พ.ศ. 2526 จากการมอบพื้นที่เพิ่มเติมโดยกรมธนารักษ์ ทำให้หอศิลป์สามารถรองรับกิจกรรมศิลปะและผู้เข้าชมได้หลากหลายมากขึ้น
เดอะ เจริญ ออาร์ต (The Charoen AArt) คือพื้นที่ศิลปะเล็กๆ แต่เปี่ยมด้วยความตั้งใจ ตั้งอยู่ปลายถนนเจริญกรุง ก่อตั้งโดย ไบรซ์ วัฒนโสภณวงศ์ ศิลปินอิสระที่อยากสร้างพื้นที่ที่เปิดกว้าง ยอมรับความหลากหลาย และเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงออกได้อย่างอิสระ จริงใจ และสร้างสรรค์ พร้อมทั้งส่งเสริมการร่วมมือกันอย่างเป็นกลาง บนพื้นฐานของความเคารพและความเท่าเทียม โดยเริ่มจากการแปลงโฉมบ้านและออฟฟิศเก่าให้กลายเป็นจุดรวมของศิลปะ วัฒนธรรม และเรื่องราวชีวิต
Art Space by MOCA Bangkok อยู่ที่ชั้น G ของโรงแรม Four Seasons เป็นอาร์ตแกลเลอรีในโรงแรมที่มีพื้นที่เยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโรงแรมกับ MOCA Bangkok พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย ย่านบางเขน โดยจะโฟกัสที่ผลงานของศิลปินไทย และจะมีนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนมาให้ดูทุกเดือน
ใครชื่นชอบศิลปะภาพพิมพ์ต้องลองแวะมาเดินสักครั้ง เพราะที่นี่คือพื้นที่ศิลปะที่นำเสนอศิลปะภาพพิมพ์ (printmaking) โดยเฉพาะ ซึ่งก่อตั้งโดย เมธาสิทธิ์ บุญเอกบุศย์ ศิลปินภาพพิมพ์ และเจ้าของ ml3print studio นอกจากจัดแสดงผลงานภาพพิมพ์แล้ว Arun Amarin 23 Art Space ยังส่งเสริมความรู้และเปิดโอกาสให้คนทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้และสัมผัสการทำภาพพิมพ์อย่างใกล้ชิดโดยมีการจัดเวิร์กช็อปเป็นประจำ
พื้นที่ศิลปะในย่านเมืองเก่าที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดย ถวัลย์ชัย สมคง บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Fine Art เพื่อเป็นศูนย์รวมของผู้คนในแวดวงศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน ภัณฑารักษ์ นักสะสม นักศึกษา ไปจนถึงคนรักงานศิลปะ ข้างในมีทั้งคาเฟ่ แกลเลอรี สตูดิโอ ห้องประชุม โคเวิร์กกิงสเปซ ออฟฟิศ และที่พักสำหรับศิลปินในโครงการ artist-in-residence
ห้องจัดแสดงหลักของ MATDOT Art Center มี 2 ห้อง คือ Blacklist Gallery ที่ใช้โชว์งานของศิลปินทั้งไทยและต่างชาติ และห้อง Matdot Gallery ซึ่งใช้จัดแสดงผลงานของศิลปินในโครงการ artist-in-residence โดยเฉพาะ
จาก TARS Gallery ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ได้ปรับเปลี่ยนทั้งสถานที่และรูปแบบการนำเสนองานศิลปะ โดยเปิดตัวภายใต้ชื่อใหม่ TARS Unlimited ที่นี่คือพื้นที่ศิลปะที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งบนถนนทรงวาด โดยเป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบควบคู่กับวัฒนธรรมที่น่าสนใจเพื่อสนับสนุนทั้งศิลปินที่มีชื่อเสียงและศิลปินหน้าใหม่
พื้นที่ศิลปะสมัยใหม่ที่อยู่ในซอยอมรินทร์ 3/3 ถนนพหลโยธิน ใกล้ BTS สถานีวัดพระศรีมหาธาติ (ออกทางออก 4แล้วเดินประมาณ 100 เมตร) ที่นี่จะนำผลงานศิลปะเชิงแนวคิดที่ล้ำสมัยท้าทายขอบเขตและความคิดแบบเดิมๆ จากศิลปินทั่วโลกมาจัดแสดง
อาร์ตสเปซที่ตั้งอยู่ในอาคารเก่าริมถนนเจริญกรุง ซึ่งเดิมทีเคยเป็นร้านอาหารอินเดีย ก่อนถูกรีโนเวตให้กลายเป็นแกลเลอรีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านโดย Elsie Lu ชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในไทยมากว่า 12 ปี ตัวอาคารมีทั้งหมด 3 ชั้น และมีชั้นดาดฟ้า โดยชั้นล่างสุดเป็นพื้นที่ต้อนรับและแสดงงานศิลปะ ชั้นสองจัดแสดงผลงานหลากหลายรูปแบบ ส่วนชั้นสามคือพื้นที่จัดกิจกรรมเสวนาหรือเวิร์กช็อป และชั้นรูฟท็อปเปิดเป็นโซนพักผ่อนที่มองเห็นวิวเมืองแบบสบายตา จุดเด่นของ Maison JE คือการเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรมที่ไม่จำกัดแค่ภาพวาดหรือศิลปะแบบดั้งเดิม แต่เปิดกว้างให้ศิลปะในทุกแง่มุมของชีวิต
พื้นที่จัดแสดงงานออกแบบและงานศิลปะที่อยู่ในโครงการ Warehouse30 ซอยเจริญกรุง 30 ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดย เจื้อย-อตินุช ตันติวิท ในฐานะแกลเลอรีแรกของไทยที่เน้นงาน Contemporary Art Jewelry หรืองานจิวเวลรี่ศิลปะร่วมสมัย คำว่า Atta มาจากภาษาบาลี แปลว่า “ตนเอง” หรือ “ตัวตน” ซึ่งสะท้อนแนวคิดเรื่อง “ตัวตน” ทั้งในแง่ของผู้สร้างสรรค์และผู้สะสมที่แกลเลอรีให้ความสำคัญ นอกจากงานจิวเวลรี่ Atta Gallery ยังได้ขยายแนวทางสู่ศิลปะร่วมสมัยในรูปแบบอื่นๆ ทั้งศิลปะวัตถุ ภาพวาด และภาพถ่ายที่มาจากศิลปินทั้งในและต่างประเทศ โดยยังคงเน้นความโดดเด่นด้านวัสดุและกระบวนการสร้างสรรค์
Supples Gallery ตั้งอยู่ที่ซอยเจริญกรุง 45 เป็นแกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยที่นำเสนอผลงานของศิลปินรุ่นใหม่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป โดยทำงานร่วมกับศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพจากทั้งสองภูมิภาค เพื่อสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับยุโรป นอกจากนั้นแกลเลอรียังให้ความสำคัญกับการค้นหาและส่งเสริมศิลปินหน้าใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก โดยยึดถือคุณค่าเรื่อง “โอกาส” และ “ชุมชน” เป็นหลัก
GalileOasis คืออาร์ตสเปซที่แปลงโฉมตึกเก่าอายุกว่า 40 ปี จำนวน 20 คูหา ให้กลายเป็นโอเอซิสแห่งศิลปะและไลฟ์สไตล์ โดยภายในโครงการแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ GalileOasis Gallery แกลเลอรีสำหรับจัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินหลากหลายรุ่นและเปิดกว้างสำหรับศิลปะทุกแนวคิด, GalileOasis Theatre โรงละครขนาดกะทัดรัดที่รองรับการแสดงจากกลุ่มละครเวทีรุ่นใหม่ และ GalileOasis Boutique Hotel โรงแรมบูทีคที่ตกแต่งด้วยกลิ่นอายดั้งเดิมผสานความร่วมสมัยอย่างลงตัว
พื้นที่ของโครงการรายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวและมีคาเฟ่ดีไซน์เก๋อย่าง Piccolo Vicolo Cafe รวมถึงมีโซนกิจกรรมกลางแจ้งที่จัด Art Market ทุกต้นเดือน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่พักผ่อน ทำงาน สังสรรค์ หรือเสพงานศิลปะในบรรยากาศร่มรื่นเป็นกันเอง
หอศิลป์ร่วมสมัยในซอยร่วมฤดีที่จัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินชื่อดังระดับโลกและศิลปินท้องถิ่นที่มีความสามารถ บนพื้นที่กว่า 700 ตารางเมตรที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันและแบ่งออกเป็น 2 ชั้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบให้กับคนรักศิลปะ โดยชั้นแรกเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ส่วนชั้นสองเป็นที่ตั้งของร้านจำหน่ายสินค้าจากศิลปินชื่อดังและสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยแกลเลอรีจะนำกำไรส่วนหนึ่งไปบริจาคให้กับโครงการการกุศลต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ Agni Project ที่ทำงานเกี่ยวกับการฟื้นฟูและทำความสะอาดอ่าวไทย
แกลเลอรีศิลปะสมัยใหม่แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดย ศาสตราจารย์ ถาวร โกอุดมวิทย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพพิมพ์) ประจำปี พ.ศ. 2564 และได้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะมาอย่างต่อเนื่องโดยให้ความสำคัญกับความหลากหลายของแนวคิดและรูปแบบการนำเสนอผลงานจากทั้งศิลปินชื่อดังและศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรง รวมถึงจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์มากมายเพื่อให้ความรู้และเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างแกลเลอรี ศิลปิน นักวิชาการ นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป
ATT 19 คืออาร์ตแกลเลอรีร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ในอาคารเก่าอายุกว่า 120 ปี ใกล้ตรอกกัปตันบุช ย่านเจริญกรุง ที่เคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนมาก่อน ปัจจุบันถูกแปลงโฉมให้เป็นพื้นที่ศิลปะหลากหลายฟังก์ชันโดยยังคงโครงสร้างและเสน่ห์เดิมไว้ ภายในอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น มีทั้งโซนจัดแสดงงานศิลปะจากศิลปินไทยและต่างชาติ ร้านกาแฟ โซนจัดเวิร์กช็อป และพื้นที่จัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ
อาร์ตแกลเลอรีและคาเฟ่บนถนนสวนพลูแห่งนี้ คือที่ตั้งของThe Little Prince Cafe แห่งแรกในไทย ที่ออกแบบโดยศิลปินชาวฝรั่งเศส Arnaud Nazare-Aga ผู้ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการจากมูลนิธิของครอบครัว Antoine de Saint-Exupéry ผู้แต่ง Le Petit Prince ตัวแกลเลอรีแบ่งเป็น 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นพื้นที่จัดแสดงงานประติมากรรม ส่วนชั้นบนคือโซนคาเฟ่ที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น พร้อมด้วยงานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกของเจ้าชายน้อย ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร ฉากจำ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ในหนังสือ
Aurum Gallery แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยในโครงการ Warehouse 30 ย่านเจริญกรุง ที่ก่อตั้งโดย Goldie (Clifford Joseph Price, MBE) ศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรีและศิลปะระดับสากลมานานกว่า 30 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมกราฟฟิตียุคทองของนิวยอร์กช่วงปลายยุค 70s-80s บนพื้นที่กว่า 528 ตารางเมตรทุกคนจะได้ดื่มด่ำกับผลงานศิลปะแนว Contemporary Art, Urban Art และ Street Art จากศิลปินระดับโลก เช่น Vhils, Belin, Saturno, Ben Eine, Odeith, Bio, Crash และอีกมากมาย
Sriwiang Gallery ตั้งอยู่บนถนนศรีเวียง ไม่ไกลจากวังประมวญ เป็นพื้นที่เก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 120 ปี ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียล อายุ 116 ปี ทาสีขาวไข่มุกเป็นเอกลักษณ์ ตกแต่งจั่วหลังคาและชายคาด้วยไม้ฉลุ สะท้อนเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของยุคนั้น โดยผสมผสานอิทธิพลแบบโคโลเนียลเข้ากับศิลปะไทยและตะวันตกอย่างลงตัว
อาร์ตแกลเลอรีย่านฝั่งธนฯ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับบีทีเอสบางหว้า หลายคนเรียกว่าเป็น ‘อาร์ตแกลเลอรีลับบนชั้นดาดฟ้า’ มาพร้อมคอนเซ็ปต์น่าสนใจที่บอกว่าจะพาคนรักศิลปะไปค้นพบกับความลับของท้องฟ้าผ่านมุมมองและจินตนาการบนงานศิลปะของศิลปิน
Placemak BKK คืออาร์ตแกลเลอรีที่จัดแสดงผลงานศิลปะสื่อผสมจากเกาหลีที่เข้ามาเปิดสาขาต่างประเทศสาขาแรกที่กรุงเทพฯ โดยจุดเริ่มต้นของ Placemak ที่เกาหลี เริ่มจากการเปิดบาร์ของ Yoo Keetae ที่ย่านฮงแด และบาร์ได้กลายเป็นพื้นที่รวมตัวของศิลปินในกรุงโซล ทำให้เขามีคอนเน็กชันของผู้คนในวงการศิลปะมากมาย จนเริ่มมาเอาจริงเอาจังกับการทำพื้นที่ศิลปะของตัวเอง และมีโอกาสได้รู้จักกับเจ้าของ Rebel Art Space ในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้ง 2 แกลเลอรีมีแนวทางที่ใกล้เคียงกัน เขาจึงตัดสินใจพา Placemak มาทักทายคนกรุงเทพฯ และตั้งใจว่าจะเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทยและเกาหลีในอนาคต
หมิง อาร์ตสเปซ (Ming Art Space) พื้นที่ศิลปะในซอยอุดมสุข 49 ที่จัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) หลากหลายรูปแบบ ไม่าว่าจะเป็น วาดภาพ งานสื่อผสม อาร์ตบุ๊ก เป็นต้น และยังเป็นพื้นที่ที่รวบรวมศิลปินที่มีความแตกต่างกันโดยให้พวกเขาสามารถแสดงออกถึงโลกส่วนตัวและกระบวนการสร้างสรรค์ของตนเองผ่านผลงานศิลปะ
โพธิสัตวา แกลเลอรี (Bodhisattva Gallery) คืออาร์ตแกลเลอรี LGBTQ+ แห่งแรกในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ภายในร้านอาหารบาอิค บาอิค (Baik Baik) ร้านอาหารไทยที่ตกแต่งด้วยสไตล์บลาหลี ในซอยสรงประภา 18 ใกล้กับสนามบินดอนเมือง แกลเลอรีแห่งนี้ก่อตั้งโดย โอ๊ต มณเฑียร ศิลปิน LGBTQ+ ชื่อของแกลเลอรีได้รับแรงบันดาลใจจากพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ หรือ ‘เจ้าแม่กวนอิม’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเมตตาและไร้เพศสภาพ โอ๊ตจึงนำมาเป็นแนวคิดหลักของพื้นที่แห่งนี้ในการเปิดกว้างให้กับศิลปินที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในแกลเลอรีประกอบด้วยห้องจัดแสดง สตูดิโอทำงานของโอ๊ต และโซนดูดวงที่ผสานเข้ากับตัวร้านอาหารได้อย่างกลมกลืน
Art4C (Art for Community) ศูนย์ศิลปะที่ริเริ่มโดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ห่างจาก MRT สามย่าน เพียง 280 เมตร ที่นี่คือพื้นที่แสดงผลงาน แลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกับชุมชนรอบมหาวิทยาลัย ภายในมีทั้งแกลเลอรีสำหรับจัดแสดงผลงานของนิสิต อาจารย์ ศิษย์เก่า และศิลปินที่ชื่อเสียง รวมถึงเป็นพื้นที่ให้ทั้งนิสิต อาจารย์ ศิษย์เก่า และศิลปินจากหลากหลายวงการได้ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่การพัฒนา Start-up ด้านศิลปะ การบำบัดด้วยศิลปะ ไปจนถึงการทำงานร่วมกับสายวิทยาศาสตร์ ดนตรี และการออกแบบ
ศิลปินเจ้าของลายเส้นแสนอบอุ่นอย่าง ดีน-ธนกร ศิริรักษ์ หรือที่รู้จักภายใต้นามปากกา ‘blue dean’ เปิดบ้านของตัวเองในซอยอารีย์สัมพันธ์ 8 ให้เราได้เข้าไปนั่งเล่นในสตูดิโอทำงานศิลปะส่วนตัว พร้อมได้เวิร์กช็อปวาดรูปแบบไม่จำกัดเทคนิคกับคุณดีนภายใต้โปรเจ็กต์ ‘วาดรูปกัน’ แถมยังได้ฮีลใจกับการแลกเปลี่ยนบทสนทนากับตัวศิลปินที่เหมือนเป็นการเธอราพีเบาๆ ไปในตัว โดย Ari Home Gallery และเวิร์กช็อปวาดรูปกัน เปิดเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น
Mana Art Gallery ตั้งอยู่ที่ถนนข้าวหลาม เป็นอาร์ตแกลเลอรีที่จัดแสดงงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เน้นงานเซรามิก โดยเฉพาะถ้วยชาที่ทำจากเตาเผาแบบดั้งเดิม และชั้นล่างเป็นพื้นที่ของ Mana Craft Cafe คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นที่เสิร์ฟเบเกอรีโฮมเมดและขนมปังซาวร์โด พร้อมเมนูอาหารเช้าและบรันช์ตลอดทั้งวัน ให้เลือกจับคู่กับชาหลากหลายชนิดหรือกาแฟหอมกรุ่น นอกจากนี้ยังมีสินค้าแฮนด์เมดของทางร้านอย่างเครื่องปั้นดินเผาและผ้าหรือเสื้อผ้าที่ย้อมสีจากธรรมชาติให้ได้เลือกชมอีกด้วย
Sathorn 11 Art Space คืออาร์ตแกลเลอรีเล็กๆ ในซอยสาทร 11 ที่รวมเอาศิลปะ ไวน์ และอาหารเข้าไว้ด้วยกันตามคอนเซ็ปต์ Art-Wine-Dine เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยจากทั้งศิลปินไทยและต่างชาติที่ผลัดเปลี่ยนมาให้ชมอย่างต่อเนื่อง ถัดเข้าไปด้านในคือบาร์บรรยากาศสบายๆ ที่เป็นเหมือนพื้นที่พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองศิลปะในแบบไม่เป็นทางการ พร้อมเมนูเครื่องดื่มในราคาสบายกระเป๋า ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือมากับเพื่อน ก็รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง และที่นี่ยังมีอาหารเสิร์ฟด้วย โดยเฉพาะพิซซ่าโฮมเมดที่อบกันสดใหม่ จับคู่กับไวน์หรือค็อกเทลแก้วโปรดได้อย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ว่าจะชมงานศิลปะ มาแฮงเอาต์ หรือมานั่งเดตก็เหมาะ