Cocktail bar in Sukhumvit
Cocktail bar in Sukhumvit
Cocktail bar in Sukhumvit
Cocktail bar in Sukhumvit
Club Salva | Photo: Tanisorn Vongsoontorn

Club Salva

นึกภาพออกไหมว่าถ้าทีมไวนิลบาร์ที่จริงใจอย่าง Modern-Day Culture เปิดบาร์เพิ่มอีกแห่งจะออกมาแนวไหน?

05 ก.ค. 2568

เอกมัย

Fri

18:00 - 01:00

350+ / คน

นึกภาพออกไหมว่าถ้าทีมไวนิลบาร์ที่จริงใจอย่าง Modern-Day Culture เปิดบาร์เพิ่มอีกแห่งจะออกมาแนวไหน? ไม่ต้องเสียเวลาจินตนาการ เพราะบาร์ที่พูดไปเกิดขึ้นจริงแล้วในชื่อ Club Salva ซึ่งอยู่ในตึกเดียวกัน ถัดลงมาอีกหนึ่งชั้นจากร้าน Modern-Day Culture

.

Club Salva ยังคงเป็นการร่วมแรงร่วมใจของทีมเดิมอย่าง ‘แพน-ชวิกา ศรีสวน’ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ A Pale Petal ผู้หลงใหลในวัฒนธรรมค็อกเทล และ ‘จอย-ณัฐวุฒิ นิลขำ’ หรือ DJ Nanziee ดีเจและนักสะสมแผ่นเสียงมากประสบการณ์ รวมถึงยังได้ ‘ต่วย-ธีฆา พุ่มภัคดี’ มาดูแลเครื่องดื่มเช่นเคย

.

ถึงจะเป็นทีมเดิมยกแผงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบาร์ใหม่แห่งนี้จะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น เพราะเพียงแค่ผลักประตูสีแดงเข้าไปคุณก็จะพบกับบรรยากาศใหม่ๆ ที่ Modern-Day Culture ก็ให้ไม่ได้ กล่าวคือ เป็นบาร์ที่ให้ความรู้สึกเฟรนด์ลี่มากขึ้น และในขณะที่บาร์ด้านบนดูค่อนข้างโต ที่นี่กลับให้ไวบ์ที่ดูเด็กลง ดูสนุกได้มากขึ้นส่วนนี้ต้องยกความชอบให้การออกแบบและตกแต่งภายในโดย @aiminterior.design ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของบาร์ด้านบน และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการทำในสิ่งที่คาแร็กเตอร์อันชัดเจนและดีในแบบนั้นอยู่แล้วของ Modern-Day Culture ไม่สามารถทำได้

.

แพน เล่าว่า จริงๆ ไอเดียของร้านนี้ผุดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มทำบาร์แรกได้ 3-4 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ได้เรียนรู้ว่าการเปิดบาร์นั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ทีมจึงใช้เวลาหลังจากนั้นฟูมฟักและเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้านเพื่อให้บาร์ใหม่ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดตามแนวทางที่คิดไว้

.

สิ่งที่ Club Salva ต้องการนำเสนอคือ ‘ความแปลกใหม่ที่เข้าถึงง่าย’ ถ้าเปรียบกับงานศิลปะก็คงเป็นผลงานของ Salvador Dalí (1904-1989) ศิลปินเซอร์เรียลลิซึ่มชาวสเปน เจ้าของผลงานภาพวาด The Persistence of Memory (1931) อันโด่งดัง และเพื่อให้สารนั้นแข็งแรงยิ่งขึ้นพวกเขาจึงนำชื่อของศิลปินมาตั้งเป็นชื่อร้าน อีกนัยหนึ่ง Salva ในภาษาสเปนและอิตาลียังมีความหมายในเชิงว่าปลอดภัยได้ด้วย ซึ่งรวมๆ แล้วจะแปล Club Salva ว่า ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ก็ได้

.

องค์ประกอบสำคัญของ Club Salva ได้แก่ Vinyl (แผ่นเสียงไวนิล), Vino (ไวน์) และ Vinegar-ish (เครื่องดื่มที่เน้นใช้ของหมักดองเป็นส่วนผสม) หรือแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ก็คือ ‘เพลง’ กับ ‘เครื่องดื่ม’ นั่นเอง เรื่องเพลงแน่นอนว่าที่ร้านยังคงเปิดแผ่นเสียงไวนิล แนวเพลงก็มีตั้งแต่ แจ๊ส เอซิดแจ๊ส มินิมัลเฮาส์ ไปจนถึงดิสโก โดยจะเน้นนำเสนอเพลงใหม่ๆ (เพลงเก่าที่ไม่เคยฟังก็ถือว่าใหม่) ที่อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักแต่ก็ไม่ได้เข้าถึงยากขนาดนั้นขอเพียงเปิดใจและปล่อยจอย

.

เพิ่มเติมเรื่องเพลงอีกนิดเพื่อให้เห็นว่าร้านให้ความสำคัญกับมันจริงๆ คือด้วยความที่เลย์เอาต์ร้านไม่ได้เป็นห้องสี่เหลี่ยมง่ายๆ ร้านจึงต้องเลือกตำแหน่งของการวางลำโพงให้ดีเพื่อให้ลูกค้าได้ยินเสียงที่คุณภาพดีเหมือนกันไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของร้าน เป็นที่มาของการติดตั้งลำโพง JBL วินเทจตัวใหญ่ 1 คู่ที่ผนังร้านฝั่งติดถนนและตัวเล็กอีก 1 คู่ที่ด้านหลังบาร์ ส่วนเครื่องเล่นที่ร้านเลือกใช้ Technics SL-1200 MK5 เครื่องเล่นจากยุค 90 ที่ถือว่าค่อนข้างวินเทจแต่ก็มีฟังก์ชันสำหรับดีเจด้วย

.

สำหรับเครื่องดื่มเรียกว่าน่าสนใจขึ้นเยอะมากเพราะที่ร้านจะเน้นใช้ของหมักดองเป็นส่วนผสม ทำให้เครื่องดื่มแต่ละแก้วมีความคราฟต์มากขึ้น แต่ก็ถือเป็นการเล่นท่ายากที่ท้าทายทั้งคนดื่มและคนทำ ในแง่ของคนดื่มที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับรสชาติและกลิ่นแนวของหมักดองในเครื่องดื่มก็อาจจะต้องเปิดใจลอง แต่คนที่ถูกปากถูกคอกับมันก็อาจจะหลงรักไปหมดซะทุกแก้ว ส่วนในแง่คนทำก็ต้องอาศัยความแม่นยำอย่างมากในทุกกระบวนการตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบหลังบ้านจนถึงตอนชงที่หน้าบาร์

.

จากประสบการณ์ที่ได้ลองชิมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์มาราวครึ่งหนึ่งของเมนูทั้งหมด เราพบว่าแต่ละแก้วยังคงคาแร็กเตอร์ของความหมักดองไว้อยู่ บางแก้วออกแนวเซเวอรี แต่ทั้งหมดนั้นมาในเวอร์ชั่นที่เป็นมิตร ไม่ได้ท้าทายคนดื่มมากจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็น

.

🌸Plum (400 บาท) เครื่องดื่มเบสวิสกี้และไวน์ขาว มีส่วนผสมของโทนิกรสเบอร์รี่ที่ถูกนำไปอินฟิวส์กับบ๊วย เสิร์ฟพร้อมโฟมปลาโอแห้งด้านบนแก้วและตกแต่งด้วยใบชะพลูสด

.

🥒Glided Green (400 บาท) แก้วนี้ใช้เตกิลาเป็นเหล้าเบส ผสมกับน้ำแตงกวาที่ถูกนำไปหมักกับน้ำตาลจนเกิดแก๊สธรรมชาติที่ให้มีความซ่านิดๆ มีกลิ่นแตงกวาอ่อนๆ เพิ่มรสชาติด้วยมะแขว่นคั่วกับเกลือที่ขอบแก้ว

.

🥭Fruit Salsa (400 บาท) ความสดชื่นลงตัวของรัม ลิเคียวร์ลิ้นจี่ สับปะรดหมัก หอมแดงดองกับพริกไทยดำและน้ำส้มสายชู

.

🍍Tepache (440 บาท) ค็อกเทลที่นำเสนอภูมิปัญญาการหมักสไตล์เม็กซิโก โดยมี ‘เตปาเช’ ที่ทำจากเปลือกสับปะรดหมักกับน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลัก ตามด้วยไวน์ขาวและแอปเปิ้ลไซเดอร์

.

อีกหนึ่งความน่าสนใจของร้านคือ อีเวนต์ Out of Bound ที่จะเชิญคนหลากหลายอาชีพนอกวงการค็อกเทลมายืนเป็นบาร์เทนเดอร์ 1 คืนเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากมุมมองของคนอื่นที่อยู่นอกกรอบของคนเป็นบาร์เทนเดอร์ โดยที่ร้านจะรับไอเดียของคนเหล่านั้นมาแล้วนำมาปรับจนได้สูตรค็อกเทลที่เจ้าของไอเดียชอบ สามารถทำได้จริง และลูกค้าก็น่าจะชอบ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีทั้งเจ้าของแบรนด์แฟชั่นและช่างสักมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอีเวนต์ ครั้งต่อๆ ไปจะเป็นใครสามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม @clubsalva

INFORMATION

OPENING HOURS

Fri

18:00 - 01:00

ADDRESS

70 (Floor, 3 ซ. สุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

Map

Public Transportation

BTS เอกมัย

Price per Person

350+

Social Media

Editor's Pick
Cocktail bar in Sukhumvit
Club Salva | Photo: Tanisorn Vongsoontorn
Cocktail bar in Sukhumvit
Club Salva | Photo: Tanisorn Vongsoontorn
Image selector of Cocktail bar in Sukhumvit
Image selector of Cocktail bar in Sukhumvit

SHARE

Link Copied!

บทความที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
logo
Follow us
About us

Careers

Contact us

Privacy Policy

Terms of use

Manage cookies