จุดนี้คำว่า ‘ไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ’ น่าจะเหมาะสมที่สุดในการนำมาใช้กับร้าน ‘House of Emily’ ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอยมากๆ เพราะนี่คือแฟลกชิปส์แห่งแรกของ Emily’s แบรนด์หมี่ไก่ฉีกเจ้าดังที่ไม่มีใครในโซเชียลเมืองไทยไม่รู้จัก
การเปิดร้านหน้าแบบจริงจังครั้งแรกของแบรนด์ Emily’s ในครั้งนี้ มาพร้อมการแต่งร้านในไวบ์ติดแกลมตามเรื่องตามราว สไตล์น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ของ คุณเพ็บ–นัยน์ชนก ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา และ คุณภัทร์ ธภรัท เวโรจน์ฤดี ที่เลือกใช้สีแดงเลือดนกเป็นสีหลัก ที่นั่งด้านในทำเป็นซุ้มอาร์กโค้งกลิ่นอายเหมือนอยู่ในสวนฝรั่งเศส พร้อมที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ด้านหน้าที่ในอนาคตจะทำเป็นโซน Chef’s Table
ไม่ใช่แค่การแต่งร้านเท่านั้นที่ติดแกลม แต่เมนูอาหารของที่นี่ก็เป็นการยกระดับหมี่ไก่ฉีกตัวดังของแบรนด์ให้อัปเลเวลความแกลมไปอีกหลายขั้น โดยในทุกเมนูจะนำตัว ‘เส้นหมี่’ ซึ่งลวกได้ที่แบบอัลเดนเต้สไตล์ไทยมาเป็นส่วนประกอบของทุกจาน เริ่มจากเมนู Marble on Marble (1,399 บาท) ที่เสิร์ฟเนื้อวากิวสเต็กมาคู่กับซอสแกงเขียวหวาน หอมแดงกงฟี และเส้นหมี่
กับอีกจานที่อลังการตามเนื้อเรื่องมากๆ คือ Heritage Lobster Nam Prik (1,890 บาท) จานไฮไลต์ที่เป็นการนำสูตรขนมจีนน้ำพริกสูตรคุณทวด มาเสิร์ฟคู่กับล็อบสเตอร์เทมปุระ ใบเล็บครุฑชุบแป้งทอด ถั่วพู และเส้นหมี่ซิกเนเจอร์ และอีกจานที่ห้ามพลาดอย่าง Emily In Bangkok (495 บาท) จานซิกเนเจอร์ที่พัฒนามาจากรสชาติติดปากของคนกรุงเทพฯ ด้วยการเสิร์ฟเส้นหมี่คลุกซอสซีฟู้ดมาพร้อมเนื้อปูม้าและหนังปลาแซลมอนอบกรอบ
ส่วนจานที่ทำได้ดีและเราชอบมากๆ คือ Not A Normal Ceasar (350 บาท) ที่ใช้เส้นหมี่มาทอดกรอบทำเป็นโดมครอบตัวซีซาร์สลัดอีกที ตัดเลี่ยนเมนูอาหารไทยรสจัดได้เวิร์กมากๆ และถ้าใครอยากแฮงก์เอาต์ต่อกันยาวๆ ที่นี่ก็มีทั้งค็อกเทลและม็อกเทลเบสชาเอมิลี่ให้ได้นั่งดื่มนั่งดริ้งก์กันเพลินๆ ด้วย