บอกได้เลยว่า Le Du Kaan หรือ ฤดูกาล คือภาคต่อของร้านอาหาร Le Du ที่ยังคงนำเสนออาหารไทยในแบบโมเดิร์น โดยเลือกใช้วัตถุดิบไทยตามฤดูกาลจากประมงพื้นบ้าน และเกษตรกรไทยมาโดยตลอด ความแตกต่างอยู่ที่ฤดูกาลเสิร์ฟแบบอลาคาตที่เหมาะกับการแชริ่ง ส่วนฤดูมาในแบบเทสติ้งเมนู อีกจุดเด่นของฤดูกาลคืออยู่ความสูงบนชั้น 56 ของ EA Rooftop at The Empire ทำให้ที่นี่กลายเป็นร้านอาหารไทยที่สูงที่สุดในโลก

แน่นอนว่าผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของฤดูกาลก็คึอ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เชฟเจ้าของร้านที่พาร้านอาหารฤดูก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของร้านอาหารในเอเชียมาแล้วเมื่อปีก่อน โดยเชฟต้นบอกว่านี่คือร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ทำมา เลยดึงตัวเชฟแบงค์-ชัชวาล วราหะจีระกูล เฮดเชฟจากสมุทรมายืนเฮดเชฟที่นี่

ส่วนเรื่องของดีไซน์แบ่งเป็นโซนด้านนอกที่เป็นบาร์และมุมนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน รวมถึงโค้งน้ำเจ้าพระยา ส่วนด้านในได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมล็ดพันธุ์ รวงข้าว เมล็ดข้าว และสายน้ำ โดยใช้งานหัตถกรรมพื้นบ้านมาผสมผสานให้ที่นี่ดูเก๋แต่ไม่เชย

สำหรับอาหารที่นี่นำเสนอในแบบอลาคาตที่เหมาะกับการแชริ่ง โดยเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศแบบ 100% นำเสนออาหารไทยในแบบสมัยใหม่ แต่ไม่ซับซ้อนเท่าฤดู เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง Khao Pod Yang ข้าวโพดอ่อนคลุกน้ำพริกกะปิย่าง กินแล้วเหมือนเราเอาข้าวโพดจิ้มน้ำพริก Somtum Puunim เชฟทวิสต์ส้มตำโดยใช้มะละกอดองสไลซ์แบบตำหลวงพระบาง มาพร้อมมะเขือเทศเชียงใหม่ พริกจินดาดอง และปูนิ่ม Yum Hua Plee ยำหัวปลีที่ใช้ปลาจากประมงพื้นบ้านมาเอจจิ้ง เปลี่ยนปลาไปตามที่ชาวประมงจับได้ในแต่ละวัน และ Gaeng Som Cha Om Goong แกงส้มแบบน้ำขลุกขลิก แถมไม่มีชะอมแต่มีกลิ่น มาพร้อมกุ้งแชบ๊วย และยอดมะพร้าว

มาที่อาหารจานหลัก Aom Gai เชฟทำเป็นเกี๊ยวไส้ไก่ผสมน้ำปลาร้า ราดด้วยน้ำซุปอ่อมแบบใสไม่มีลูกซุป มีเพียงน้ำมันผักชีลาวและใบแมงลัก Massaman Pae เนื้อแพะออร์แกนิกจากเขาใหญ่ที่ทำจนนุ่มในแบบแกงมัสมั่นเข้มข้น Khapow Nuer ข้าวผัดกะเพรารสจัดจ้านกับเนื้อไทยวากิวตุ๋น กินกับพริกดองและกระเทียมเจียว มีความผสมผสานข้าวกับก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว จานต่อมาต้องสั่งและต้องเบิ้ล Lin Yang ลิ้นวัวไทยวากิวจากสกลนครที่นำมาย่างกึ่งรมควันจนหอมนุ่ม ราดด้วยน้ำเนื้อ กินกับผักดอง Phad Mee Nam Yaa Puu เส้นหมี่เหลืองกับน้ำยาปูม้า และไฮไลต์ซิกเนเจอร์ของเชฟต้น Goong Mae Nam Yang ปกติในฤดูเป็นเมนูที่ต้องสั่งเพิ่ม แต่ที่ฤดูกาลมาในแบบอลาคาตแบบแชริ่งได้สบาย

ปิดท้ายด้วยขนมหวาน Kluay Buad Chee กล้วยบวชชีเวอร์ชั่นเย็น ไอศกรีมกล้วยกับเค้กกล้วยหอมและคัสตาร์ดมะพร้าว Yum Pla Kem ขนมหวานแบบเซโวรี ไอศกรีมซอร์เบน้ำยำ ปลาเค็ม เค้กผักชี และทิวหอมแดง Miang Kam ไอศกรีมใบชะพลูกับซอสเมี่ยงคำ และ Ma Praw ที่เหมือนนำเอาบัวลอยมาทวิสต์เป็นแบบเย็น

ใครเพิ่งทราบข่าวว่า Le Du Kaan เปิดให้บริการ รีบจองด่วน เพราะใกล้ฤดูหนาวแล้ว บอกเลยว่าวิวที่นี่ดีมาก ถ้าไปช้าระวังจะเต็มยาว แล้วจะมาว่า Weekend ไม่เตือนไม่ได้นะ