Zaozen สาขาใหม่ Siam Paragon ที่ยังคงวัฒนธรรมเส้นสดอีสาน ซึ่งบีบเส้นใหม่ทุกวัน ความน่าสนใจของสาขานี้อยู่ที่การเพิ่มเอาเมนูอาหารทะเลย่างเข้ามา หรือจะบอกว่าที่นี่หลอมรวมเอาการเดินทางของ Zao ตั้งแต่วันแรกถึงปัจจุบันมาในคราวเดียว
.
คุณอีฟ-ณัฐธิดา พละศักดิ์ และคุณนีฟ-ฮะนีฟ พิทยาสาร เริ่มเปิดร้าน Zao ที่เน้นอาหารอีสานขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ ในโซนสุขุมวิท ก่อนต่อยอดมาเป็นร้าน ZaoLarb ที่โชว์เคสอาหารแบบปาร์ตี้และอาหารเช้าแบบอีสาน ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Saole ที่เน้นอาหารทะเลแบบฝรั่ง
.
ในขณะที่ Zaozen เปิดสาขาแรกที่ Emsphere รับเอาวัฒนธรรมอาหารเช้าอีสาน และเพิ่มการนำเอาเส้นข้าวปุ้นบีบสดมาทำอาหารอีสานในหลากหลายเวอร์ชั่น ก่อนขยายสาขามาที่ Zaozen สาขาใหม่ Siam Paragon ที่มีส่วนผสมของ Zao, Saole และ Zaozen แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วยังคงปรัชญาของอาหารอีสาน ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การทำเส้นข้าวปุ้นแบบสดใหม่ และเพิ่มมูลค่าให้อาหารอีสานด้วยอาหารทะเล
.
Zaozen ทำเส้นออกมา 4-5 ชนิด เพื่อให้เส้นแต่ละชนิดเข้ากันกับอาหาร มีทั้งเส้นข้าวปุ้น เส้นด้องแด้ง เส้นหลอด และเส้นแบน ที่ทางร้านบีบสดก่อนนำมาทำตำด้องแด้ง นำมาผัดก๋วยเตี๋ยว หรือทำขนมจีนและก๋วยจั๊บ
.
เมนูใหม่ที่มีเฉพาะสาขานี้ ‘ก๋วยเตี๋ยวคั่วหมึก’ เส้นใหญ่คั่วที่ผัดมาแบบก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่ใส่ปลาหมึกย่างทั้งตัวเข้ามาแทนหมึกกรอบและไก่ หรือ ‘ผัดหมี่พิมายกุ้งทอดและปลาป่นรมควัน’ ผัดหมี่ที่มีกระบวนการทำเส้นที่ใช้เวลานานมาก มาพร้อมกุ้งทอดแบบเทมปุระ และปลาป่น เลือกเป็นกุ้งมังกรแทนได้ด้วย
.
นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลอย่าง ‘ปูไข่ดองส้มมะปี๊ด’ ปูไข่ดองแบบปูดองเกาหลี แต่ใส่ความเป็นไทยด้วยส้มมะปี๊ด ‘หมึกย่าง’ ‘กุ้งแม่น้ำย่าง’ และ ‘กุ้งมังกรย่าง’ ส่วนหมวดของอาหารอีสานก็ยังมีทั้ง ‘ตำมังคุด’ ‘ตำด้องแด้ง’ ‘ไก่ย่าง’ หรือ ‘ปลายอนย่าง’
.
ใครเป็นแฟนอาหารของ Zao บอกเลยว่าที่นี่สะดวกมากเพราะอยู่ใจกลางเมือง แต่อาจจะไม่เหมาะนั่งชิลแบบที่สุขุมวิท
.
Zaozen ขั้น G Siam Paragon