ถ้าจะเรียกว่าตอนนี้ถนนทรงวาดคือ ‘รังอีกา’ ก็น่าจะไม่เกินจริง เพราะหลังจากประสบความสำเร็จจากการเป็นร้านอาหารไทยสไตล์โลคัลที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเส้นนี้แล้ว ตอนนี้ ‘อี-กา’ ตัวเดิม ที่เป็นโปรเจ็กต์ลูกรักของเครือ It’s happened to be a closet ก็พร้อมโบยบินอีกครั้ง หลังจากบินไปสร้างรังใหม่ใหญ่เบ้อเริ่มสำหรับคนรักอาหารเช้าที่สาทรมาเมื่อปลายปีก่อน
สำหรับรังใหม่ในครั้งนี้ เลือกทำเลไม่ไกลจากรังออริจินัลบนถนนทรงวาดในระยะเดินยังไม่ทันเหงื่อออกก็ถึงแล้ว โดยเลือกเป็นห้องแถวหน้ายาวขนาด 3 คูหา มาตกแต่งในสไตล์ที่แค่เห็นดิสเพลย์กับสติ๊กเกอร์ติดกระจกหน้าร้าน ก็รู้เลยทันทีว่าเป็นฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์ตัวแม่อย่าง คุณแจะ-ศิริวรรณ ธรณนิธิกุล ซึ่งนิยมชมชอบเฟอร์นิเจอร์วินเทจ ผนังเพนต์มือ และงานไฟนีออนสีฉูดฉาดอยู่เป็นนิจ จนเกิดเป็นอินทีเรียดีไซน์ในแบบเฉพาะตัวที่จะเห็นได้จากร้านในเครือนี้เท่านั้น
รังลับรังใหม่ล่าสุดนี้ เลือกไฮไลต์เน้นๆ เฉพาะเมนูซีฟู้ดตามคอนเซ็ปต์ชื่อร้านว่า อี-กา LUV Seafood ซึ่งเกิดจากความชอบกินอาหารทะเลสุดๆ ของทีมเจ้าของร้าน ซึ่งจะเสิร์ฟเมนูที่แตกต่างจากฝั่ง อี-กา Lab ที่เป็นร้านแรกในถนนทรงวาดอย่างสิ้นเชิง เราแนะนำว่าใครชอบกินอาหารไทยสูตรโลคัลก็ให้ไปร้านแรก ส่วนใครชอบกินอาหารทะเลสูตรไทย-จีน ก็ให้มาร้านใหม่นี้ดีกว่า
ซีฟู้ดสดจากประมงพื้นบ้านทั่วประเทศรวมถึงแหล่งซัพพลายจากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ถูกจัดใส่อยู่ในเมนูที่แบ่งตามหัวข้อหลักคืออบ นึ่ง ทอด ย่าง และต้ม เพื่อความเข้าใจง่ายไม่ต้องคิดเยอะ อย่างไฮไลต์เมนูฝั่ง ‘นึ่ง’ ที่มองไปโต๊ะไหนก็เห็นมีวางอยู่ทุกโต๊ะ ได้แก่ ปูเนื้อนึ่งอย่างราชา (1,890 บาท) ปูเนื้อดำส่งตรงมาจากสุราษฎร์ธานีแบบที่ยังเป็นๆ โดยจะสั่งเฉพาะไซซ์ที่น้ำหนักมากกว่า 8 ขีดขึ้นไปเท่านั้น ความน่ารักของร้านนี้คือ ถึงจะได้ปูน้ำหนักเกือบ 9 ขีดมา ก็ไม่ได้คิดเงินลูกค้าเพิ่มแต่อย่างใด
ส่วนใครเป็นสายกินกุ้ง เราแนะนำให้สั่ง กุ้งลายเสือลวก (590 บาท) มาแชร์กันแบบฟินๆ ได้เลย ทีเด็ดที่ไม่ควรมองข้ามอยู่ที่น้ำจิ้มซีอิ๊วฮ่องกงที่นำไปปรุงรสเพิ่ม ที่เข้ากับกุ้งลวกจนจิ้มเพลินลืมน้ำจิ้มซีฟู้ดไปเลย (แต่น้ำจิ้มซีฟู้ดร้านนี้ก็คือเดอะเบสต์เช่นกัน)
เมนูอาหารประเภท ‘อบ’ ที่น่าลอง ก็ได้แก่ ปูไข่อบวุ้นเส้น (590 บาท) ที่ก่อนกินแนะนำให้คลุกไข่ปูที่อัดแน่นเต็มกระดองให้เข้ากันกับวุ้นเส้นอบซอสฉ่ำๆ ที่ด้านล่างซะก่อนเพื่อความนัว และที่ห้ามพลาดสุดๆ สำหรับคนรักของทอด ขอยกให้เมนู ปู Typhoon (1,290 บาท) เมนูสไตล์ฮ่องกงที่เชฟจะนำปูม้าไปทอดจนกรอบทั้งตัว แล้วค่อยนำมาผัดกับซอสรสหวานๆ เค็มๆ และโรยด้วยกระเทียมเจียวกับพริกแห้งจนล้นจาน
ปิดท้ายด้วยเมนูซดคล่องคออย่าง โป๊ะแตกน้ำดำ Seafood อย่างเริ่ด (550 บาท) ที่รสชาติก็เริ่ดตามชื่อเมนูจริงๆ นั่นแหละ เพราะมันคือโป๊ะแตกรสเผ็ดร้อนเปรี้ยวจี๊ดที่แอบใส่กิมมิกน้ำซุปสีดำจากดีปลาหมึกลงไปเพื่อความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ขอยกความดีความชอบให้วัตถุดิบที่สดใหม่จริงๆ จังๆ สมราคาการสร้างรังใหม่แยกออกมาให้ลูกค้าร้านอีกาที่ชอบอาหารทะเลโดยเฉพาะ ที่สำคัญคือเสิร์ฟมาแบบเน้นปริมาณจุกๆ ไม่หวงของ ใครมาทรงวาดแล้วบ่นว่าไม่มีร้านซีฟู้ดสำหรับครอบครัวให้แวะ ตอนนี้คงต้องเลิกบ่นได้แล้ว!