ในบรรดาร้านอาหารเปิดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา Horsamut - หอสมุทร คือหนึ่งในร้านสวยที่สุดที่เราอยากมอบรางวัลด้านการแต่งร้านยอดเยี่ยมให้ คุณอู้ พหลโยธิน และคุณบอล ธาราภิบาล เจ้าของร้าน (ที่เป็นเจ้าของ Rongros, Contento, Lucky Duck และ Bimbo ด้วย) เลือกใช้ไวบ์เมดิเตอร์เรเนียนมาตกแต่งให้สวยฉ่ำกำลังดี ไม่มากหรือน้อยไป photogenic ในทุกมุม และยิ่งทำให้วิวพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่อยู่ตรงข้ามและเห็นได้เต็มๆ ตา สวยยิ่งขึ้นไปอีก
ไวบ์เมดิเตอร์เรเนียนของ Horsamut คุมโทนตั้งแต่ประตูทางเข้าที่ทำเป็นกำแพงฉาบปูนเปลือยสีน้ำตาลอมส้ม มีหน้าต่างห้องครัวที่เปิดโชว์เป็นวินโดว์ดิสเพลย์อยู่ตรงมุมใต้บันไดทางขึ้นไปชั้นสอง โซนที่นั่งทั้งชั้นล่างและชั้นบนถูกออกแบบมาให้รู้สึกเหมือนเดินขึ้นเรือสำราญลำใหญ่ที่ชั้นล่างจะเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมที่นั่งโซฟาทรงโค้งบุผ้ากำมะหยี่ สมเหตุสมผลกับฟังก์ชั่นการใช้งานในพื้นที่อินดอร์ ส่วนสเปซที่นั่งเอาต์ดอร์ด้านบนที่ฮอตฮิตที่สุดของร้านนี้ ก็ทำออกมาให้สวยโปร่งสบายตาในโทนสีน้ำตาล-ส้ม-ครีม พร้อมแต่งเสาคานไม้คล้ายเสากระโดงเรือ ให้มู้ดเหมือนนั่งอยู่บนดาดฟ้าเรือ เปิดโอกาสให้เราได้นั่งทานข้าวไปพร้อมๆ กับชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา แถมด้วยวิวพระอาทิตย์ตกดินและพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่จะเปิดไฟในช่วงหัวค่ำ
สำหรับคอนเซ็ปต์อาหาร ‘Coastal Thai Cuisine’ ของร้านนี้ เลือกโฟกัสที่วัตถุดิบจาก ‘ริมชายฝั่ง’ ซึ่งรวบรวมมาทั้งหมดตั้งแต่ชายฝั่งแม่น้ำไปจนถึงชายฝั่งทะเลจากทั่วประเทศ ไล่มาตั้งแต่อยุธยา จันทบุรี ตราด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงชุมพร เมนูแนะนำมีทั้ง หมึกไข่แดดเดียวย่าง (250 บาท) ของทานเล่นเคี้ยวเพลินที่ใช้หมึกไข่จากปราณบุรีมาย่างถ่านไม้โกงกาง มีความหอมและเค็มจากการทาน้ำปลาทั่วตัวหมึกก่อนย่าง และ หมูโกงกาง (380 บาท) ตุ๋นหมูสามชั้นตุ๋นในกระทะทองเหลืองด้วยไฟจากไม้โกงกางนาน 48 ชั่วโมง โดยเป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหมูฮ้องทางภาคใต้นั่นเอง
อีกเมนูที่เราแนะนำให้สั่ง คือเมนูง่ายๆ แต่อร่อยแรงอย่าง ต้มยำกุ้งแม่น้ำมะพร้าวอ่อน (480 บาท) ต้มยำโบราณที่สีดูจืดกว่าร้านทั่วไป แต่รสชาติกลมกล่อมถึงเครื่อง แถมยังมีรสติดหวานนวลๆ จากการใส่น้ำมะพร้าวลงไปในต้มยำถ้วยนี้อีกด้วย
สิ่งที่ควรลองไม่แพ้เมนูอาหาร คือค็อกเทลของร้านนี้ที่หยิบเอาเรื่องราวของพระอภัยมณีและผีเสื้อสมุทรมาเป็นกิมมิกของแต่ละแก้ว อาทิ สินสมุทร (350 บาท) ค็อกเทลจากเบสเหล้าจินผสมเนื้อทับทิม ข่า และน้ำลิ้นจี่ กับอีกตัวที่เราได้ลองคือ บ้องพิสดาร (350 บาท) ดริ้งก์ชื่อแปลกที่ใช้เหล้ารัมพื้นบ้านแบรนด์แม่โขงเป็นส่วนผสมหลัก พร้อมเพิ่มความสดชื่นด้วยเสาวรสและมะม่วง