อีกหนึ่งบาร์จากทีม Sugar Ray ที่นิยามตัวเองว่าเป็น Basement Lounge หรือเลานจ์ที่ซ่อนตัวอยู่ที่ชั้นใต้ดิน พื้นที่ร้านค่อนข้างกว้างขวาง แต่ขณะเดียวกันก็ให้ความเป็นส่วนตัวกับทุกโต๊ะ–แต่ถ้าไม่พอก็มีโซนไพรเวตที่ลับขึ้นไปอีก ภายในร้านตกแต่งสวยหรูด้วยลายตารางหมากรุก เพิ่มความแกลมด้วยคู่สีอย่างสีแดงกับสีทองของที่นั่ง ผ้าม่าน และของตกแต่ง ซึ่งทำให้ร้านดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากขึ้น

ค็อกเทลที่ร้านจะเน้นทั้งซิกเนเจอร์และคลาสสิก โดยฝั่งซิกเนเจอร์จะได้แรงบันดาลใจมาจากตัวหมากทั้ง 6 ของหมากรุกสากล ได้แก่ King, Queen, Rook, Bisop, Knight และ Pawn แต่ละแก้วก็จะเป็นตัวแทนคาแร็กเตอร์ของหมากแต่ละตัว เช่น The King’s Command (440 บาท) ก็จะเป็นดริงก์ที่มีความเข้มข้น ซับซ้อน นุ่มลึก สะท้อนอำนาจ บารมี และความสุขุมของพระราชา ส่วนผสมแก้วนี้จะคล้ายกับ Boulevardier

หรืออย่าง The Rook’s Fortress (420 บาท) ตัวแทนของตัวหมากเรือที่สามารถเดินไกลที่สุดในกระดาน แก้วนี้จะมีความเป็น long drink รสชาติเปรี้ยวหวานซ่าๆ เหมาะกับการจิบไปเรื่อยๆ เน้นให้ความรู้สึกสดชื่น ขณะที่ Checkmate (420 บาท) หรือ ‘รุกฆาต’ ก็จะแทนคาแร็กเตอร์ของความหนักแน่นของผู้ชนะด้วยเครื่องดื่มสไตล์มาร์ตินี

ฝั่งค็อกเทลคลาสสิกที่ร้านจับใส่เมนูมาให้สั่งมากถึง 17 แก้ว พร้อมป้ายยาว่าเป็นค็อกเทลคลาสสิกที่เน้นใช้ส่วนผสมตามแบบฉบับคลาสสิกจริงๆ อย่างแก้วที่เราลองจิบมาคือ Pisco Sour (400 บาท) ก็นำเสนอรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ Pisco เหล้าองุ่นจากเปรูและชิลีได้อย่างดี

นอกจากมาดื่มมาดริงก์แล้วที่นี่ยังมีกระดานหมากรุกให้เล่นด้วย เป็นเกมสนุกๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้ปาร์ตี้ของทุกคน ใครอยากรู้ว่าการใช้ความคิดตอนเมาๆ สนุกแค่ไหนไปลองเล่นได้นะ