Capella Bangkok กลายเป็นโรงแรมอันดับ 1 ของโลก จากการประกาศรางวัล The World’s 50 Best Hotels 2024 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 จากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นปีที่ 2 ของการจัดงานประกาศรางวัลนี้
โดยท็อป 5 ของโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก ได้แก่
อันดับ 1 Capella Bangkok กรุงเทพฯ
อันดับ 2 Passalacqua อิตาลี
อันดับ 3 Rosewood Hong Kong ฮ่องกง
อันดับ 4 Cheval Blanc ฝรั่งเศส
และอันดับ 5 The Upper House ฮ่องกง
สำหรับโรงแรมจากประเทศไทย ติดเข้ามาในลิสต์ 50 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลกทั้งหมด 4 อันดับ
อันดับ 1 Capella Bangkok
อันดับ 12 Mandarin Oriental, Bangkok
อันดับ 14 Four Seasons Hotel Bangkok
อันดับ 26 The Siam
ส่วนรางวัลพิเศษ 9 รางวัล ประเภทรางวัลมีความใกล้เคียงกับ 50 Best Restaurants และ 50 Best Bars อาทิ One To Watch Award, Art of Hospitality Award, Best Boutique Hotel Award, Best Beach Hotel Award, Icon Award, Best New Hotel Award, Eco Hotel Award, Most Admired Hotel Group Award, Highest New Entry Award และ Highest Climber Award
การจัดอันดับนี้เป็นรางวัลที่แตกไลน์ออกมาจาก 50 Best Restaurants และ 50 Best Bars ซึ่งยังคงบริหารจัดการโดยเครือ William Reed โดยมี The World’s 50 Best Hotels Academy ที่คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญในวงการท่องเที่ยวและการโรงแรม อาทิ นักข่าวสายท่องเที่ยว, เจ้าของบริษัทท่องเที่ยว, ผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรมและลักชูรีไลฟ์ และนักเดินทางสายลักชูรี จำนวน 800 คน จาก 13 ภูมิภาค ที่ได้รับการคัดเลือกจาก Chairman ของแต่ละภูมิภาค มาเป็นผู้โหวต ซึ่งผู้โหวตทั้งหมดจะไม่เปิดเผยตัวตน โดยเกณฑ์การโหวตจะครอบคลุมเรื่องประสบการณ์การเข้าพักโดยรวม ดีไซน์โรงแรม อาหารและเครื่องดื่มภายในโรงแรม สิ่งอำนวยความสะดวก และ Unique Offering ที่โรงแรมมีให้กับผู้เข้าพัก
สำหรับลิสต์ 50 โรงแรมที่ดีที่สุดของ The World’s 50 Best Hotels 2024 สามารถดูได้ที่: www.theworlds50best.com/stories/News/the-worlds-50-best-hotels-2024-list.html
โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในแบบสวีทและวิลล่า 101 ห้อง ที่ดีไซน์ห้องพักทั้งหมดหันหน้าออกไปทางแม่น้ำ โชว์ทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดวันและคืน โดยเน้นดีไซน์ที่เรียบง่ายและให้ความเป็นส่วนตัวเหมือนอยู่ในบ้านพักริมน้ำ ที่นี่ยังมี “คาเพลลา คัลเจอริสต์" ผู้ช่วยที่จะพาเราไปพบกับประสบการณ์แปลกใหม่ของกรุงเทพมหานคร รวมถึงพาเราไปชิมร้านอาหารจองยากของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ภายในโรงแรมเองก็มีห้องอาหารให้เลือกหลากหลายทั้ง Côte by Mauro Colagreco ห้องอาหารฝรั่งเศสที่ได้มิชลิน 1 ดาว, Phra Nakhon ห้องอาหารไทยริมน้ำ, Stella บาร์ค็อกเทลที่มีนกยูงสีขาวบริสุทธิ์เป็นจุดเด่นใจกลางบาร์ และ Tea Lounge ดื่มชายามบ่าย
ตำนานโรงแรมของประเทศไทยที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานถึง 148 ปี จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องการสัมผัสกับโรงแรมระดับไอคอนนิคของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาทื่ล่าสุดได้ Jerey Wilkes ดีไซน์เนอร์มาช่วยปรับโฉมของห้องพักฝั่งริมแม่น้ำใหม่ทั้งหมด ที่นี่ยังมีห้องอาหารและบาร์รวมกันมาถึง 12 แห่ง ตั้งแต่อาหารไทยไปจนถึงฝรั่งเศสไฟน์ไดนิ่ง
โรงแรมอันดับ 14 จาก The World's 50 Best Hotels 2024 ควบรางวัลกุญแจมิชลิน 2 กุญแจ และอยู่ใน Top 1000 Hotels 2025 จาก La Liste
ที่นี่มาในคอนเซ็ปต์ของ Unique Urban Resort โดยนักออกแบบชื่อดัง Jean-Michel Gathy ผู้อยู่เบื้องหลังงานออกแบบรีสอร์ตชื่อดังทั่วโลก เน้นการเชื่อมต่อแม่น้ำให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม อย่างวิวของล็อบบี้ที่มีสระน้ำที่เชื่อมออกไปยังแม่น้ำ ส่วนของห้องพักมีทั้งหมด 299 ห้อง เริ่มที่ 50 ตารางเมตร มาพร้อม 2 สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ รวมถึง The Urban Wellness Center แบบครบวงจร
ห้องอาหารของที่นี่โดดเด่นด้วยห้องอาหาร Palmier by Guillaume Galliot ที่ให้บริการอาหารฝรั่งเศสโดยมีเชฟจาก Caprice ห้องอาหารมิชลิน 3 ดาว จากฮ่องกง มาช่วยดูแลสูตรอาหาร รวมถึงที่นี่ยังมีห้องอาหารจีน Yu Ting Yuan ที่เคยได้ดาวมิชลินในไทยมาแล้ว ตามด้วยห้องอาหารอิตาเลียน Riva Del Fiume และ BKK Social Club บาร์ค็อกเทลรางวัล Asia’s 50 Best Bars และ The World 50 Best Bars
ที่นี้ยังให้ความสำคัญกับงานอาร์ต โดยร่วมมือกับ Moca Bangkok จัดโซน Art Space by Moca at Four Seasons แกลเลอรีศิลปะที่เปิดให้เข้าชมฟรี
1 ใน 2 โรงแรมของกรุงเทพฯ ที่ได้ Three Michelin Keys ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังได้อันดับที่ 26 ของ The World's 50 Best Hotels 2024 และอยู่ใน Top 1000 Hotels 2025 จาก La Liste
โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาของครอบครัวสุโกศล ซึ่งถูกออกแบบโดย Bill Bensley สถาปนิกชื่อดังที่ออกแบบโรงแรมชื่อดังมาแล้วทั่วโลก โดยบิลผสมสไตล์ของอาร์ตเดคโคเข้ากับกลิ่นอายโคโลเนียล ตกแต่งด้วยของสะสมส่วนตัวของครอบครัวสุโกศล เช่น กล้องรุ่นเก่า เครื่องอัดเสียง และของสะสมอื่นๆ
ที่นี่มีห้องสวีทและวิลล่ารวม 39 ห้อง ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มต้นที่ 80 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่อัดแน่นไปด้วยของตกแต่งและห้องน้ำที่หรูหรา รวมถึงบริการบัตเลอร์ และพิเศษ Connie's Cottage เรือนไทยริมเจ้าพระยา ที่ถือเป็นหนึ่งในห้องพักที่โดดเด่นและมีประวัติเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารไทย Chon, ห้องอาหาร The Story House ที่ออกแบบโดย Bill Bensley, The Pier ท่าเรือส่วนตัวที่มีมุมนั่งดื่มชมพระอาทิตย์ตก และ Bathers Bar บาร์ค็อกเทลริมสระว่ายน้ำ