
ไม่มีช่วงไหนน่าออกไปนั่งชิล จิบเครื่องดื่มดีๆ ฟังดนตรีเพลินๆ มากไปกว่าช่วงนี้แล้ว และเดือนนี้ก็เป็นอีกเดือนที่กรุงเทพฯ มีบาร์เปิดใหม่ให้ตามไปอัปเดตกันอีกเช่นเคย ซึ่งเราได้เลือกร้านที่น่าสนใจมาแนะนำทุกคนทั้ง 5 ร้านที่เหมาะกับการไปนั่งจิบเบาๆ รับลมเย็นตลอดเดือนนี้

บาร์ล่าสุดของ ก้อง-อนุภาส เปรมานุวัติ แห่ง Ku Bar ที่ถนนพระสุเมรุ และ North Country ที่เชียงใหม่ ส่วนบาร์แห่งนี้อยู่แถวๆ ซอยสุขุมวิท 65 หน้าตาร้านก็จะเรียบๆ มินิมัล แต่สวยและเทสต์ดีแบบไม่ต้องพูดเยอะแบบเดียวกับ Ku Bar และ North Country ส่วนเครื่องดื่มที่นี่จะเสิร์ฟทั้งไวน์และค็อกเทลที่ใช้ไวน์เป็นส่วนผสม

บาร์ที่อยู่ในโครงการ Supalai Icon Sathorn ริมถนนสาทรใต้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัสดุที่สะท้อนเรื่องราวของเวลา ได้แก่ อิฐแดง แก้ว และโลหะ ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ตกแต่งร้านประกอบกับการออกแบบแสงที่ทำให้ร้านดูสวยสะดุดตาเหนือกาลเวลา ร้านมีกำหนดเปิดให้บริการช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นบาร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัสดุ

ว้าวมากที่คำว่า ‘ชิม’ คำเดียวที่เราพูดกันอยู่ทุกวันพาเราไปได้ไกลกว่าเรื่องของการลิ้มรส ผ่านความคิดสร้างสรรค์ของทีม Xim Bangkok บาร์ค็อกเทลเปิดใหม่ในเครือเดียวกับ GOT และ Rec. Bangkok ที่เล่นคำและตีความออกเป็น 4 ความหมายแล้วนำมาร้อยเรียงเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านและเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่แบ่งเป็น 4 หมวดเช่นกัน
ชิมแรกคือ ‘ฌิม’ ที่มาจาก ‘มัชฌิม’ หมายถึงสิ่งที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งร้านตีความว่าเป็น ‘ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ’ ค็อกเทลในหมวดนี้จึงนำเสนอความเข้ากันอย่างกลมกลืนของสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน ทั้งในแง่รสชาติ เท็กซ์เจอร์ และการนำเสนอ เช่น Vice V. Virtue (460 บาท) ค็อกเทลที่นำเสนอมุมเทาๆ ที่อยู่ระหว่างความดีกับความชั่วร้าย ส่วนผสมสำคัญมีทั้งนมทานได (นมเครื่องเทศสไตล์อินเดีย), เวย์โปรตีน, และอ็อกซิเมล (น้ำส้มสายชูผสมน้ำผึ้งและสมุนไพร) เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากยุคกรีก-โรมัน ซึ่งล้วนให้พละกำลัง
แก้วนี้เป็นดริงก์สไตล์มิลก์เชกที่เสิร์ฟมาในขวดนมพร้อมแปะโลโก้รูปเด็กเนิร์ดวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่มีเงาสะท้อนด้านมืดอยู่ในกระจก สื่อความก้ำกึ่งของความดีความชั่วได้อย่างชัดเจน เป็นกิมมิกที่ชวนตั้งคำถามว่าเด็กคนนี้จะใช้พลังของเขาในทางไหน

Bar Scofflaws กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่อย่าง Bloom ที่สื่อถึงการเกิดใหม่ การเติบโต และการเบ่งบาน โดยหยิบยกเสน่ห์ของ Classic Cocktail มาตีความในรูปแบบร่วมสมัย เครื่องดื่มทุกแก้วถูกสร้างสรรค์ด้วยงานคราฟต์ รายละเอียดอันประณีต และเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ภายใต้คอนเซ็ปต์นี้ดอกไม้ไม่ได้เป็นเพียงการตกแต่งแก้ว แต่คือ “หัวใจ” ของค็อกเทลและเป็นองค์ประกอบที่ซ่อนความหมายไว้อย่างงดงาม เครื่องดื่มแต่ละแก้วจะถ่ายทอดบุคลิกเฉพาะ ผ่านรสชาติ กลิ่น และการนำเสนอ สร้างประสบการณ์ที่ทั้งคุ้นเคยและสดใหม่ในคราวเดียว

ดื่มต่อหน้าเทพเจ้าและโยนโบว์ลิงกลางบาร์ที่ Hannibal Bar บาร์รูฟท็อปลับย่านเยาวราช ร้านอยู่บนชั้น 10 ของอาคารพิชัยญาติ เชื่อมทุกคนสู่โลกอีกใบด้วยบรรยากาศที่เหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนังฮ่องกงยุค 90 ผสมความดิบแบบไซเบอร์พังก์เข้ากับโทนดาร์กโรแมนติก และมีรูปปั้นเทพเจ้ากวนอูสององค์ที่สื่อความเป็นบาร์ในย่านไชนาทาวน์
เครื่องดื่มที่ Hannibal รังสรรค์โดย Khun Kie มิกโซโลจิสต์จาก BKK Social Club มาพร้อมกิมมิกไม่เหมือนใครโดยการเปลี่ยนพื้นที่ลาดเอียงของร้านเป็นลานโบว์ลิง ใครสั่งค็อกเทลซิกเนอเจอร์ที่ชื่อ Rolling Boy หรือ Rolling Girl จะได้โยนลูกโบว์ลิงที่มีเชกเกอร์ใส่ค็อกเทลอยู่ข้างใน โดยใช้การกลิ้งทำให้ทุกส่วนผสมเข้ากันแทนการเชกหรือสเตอร์ที่เราคุ้นเคย

Tuff Bar ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของตึกไม่มีชื่อ แต่อยู่ใกล้ๆ กับตึกชาญอิสระ ทาวเวอร์ 1 ซึ่งอยู่หลัง Silom Edge ชื่อร้านมาจาก Tuff Rock ซึ่งเป็นหินชนิดหนึ่งที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟ เป็นหินเนื้อนุ่มที่ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นชื่อที่สื่อถึงความเข้มแข็งและอ่อนหวานของสาวๆ sapphic ได้เป็นอย่างดี และยังมี ‘หนูหิน’ คาแร็กเตอร์หินหน้าตาน่ารักเป็นมาสค็อตประจำร้านด้วย
ที่นี่คือ Lesbian Bar ที่ต้อนรับทั้ง sapphic, transmascs และ dolls หรือหญิงข้ามเพศ ให้มาแฮงเอาต์และเป็นตัวของตัวเองกันอย่างปลอดภัย เพื่อนบ้านของร้านนี้มีทั้ง Cake Bangkok บาร์เกย์หมีที่อยู่ชั้น 2 และ Bottle Rocket บาร์คราฟต์เบียร์ที่ชั้น 1


บาร์ค็อกเทลในโครงการ The Hub พหลฯ-อารีย์ ชื่อร้านแปลว่า ‘เทพี’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความงดงาม ความมั่นใจ และพลังของผู้หญิง เพราต้องการให้ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาที่ร้านรู้สึกเหมือนเป็นเทพีที่ทั้งดงาม สง่า และมีคุณค่าในแบบของตัวเอง
Goddess Bar เป็นบาร์สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ร้านตกแต่งด้วยสไตล์นิวยอร์กโมเดิร์น ทุกมุมของร้านถูกออกแบบให้สะท้อนเสน่ห์ของผู้หญิง เหมาะกับการแวะไปนั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ หลังมื้อเย็น กิมมิกของร้านคือต้องใช้รหัสผ่านก่อนเข้าร้านโดยสามารถทักรับรหัสเข้าร้านได้โดยตรงทุกวัน วันธรรมไม่มีค่าเข้า ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ มีค่าเข้าคนละ 290 บาท สามารถแลกค็อกเทลซิกเนเจอร์ได้ 1 แก้วและป็อปคอร์นฟรีทั้งคืน

บาร์ค็อกเทลสไตล์ลาตินจาก Sarnies Group ที่ได้ทีม F*nkytown บาร์ในเครือเดียวกันมาอยู่เบื้องหลัง ค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่นี่ได้แรงบันดาลใจจากความเป็นลาตินที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวา ร้านอยู่บนชั้น 2 ของตึกเดียวกับ Sarnies Cantina และ Carito’s ในซอยสุขุมวิท 22