


ท่ามกลางความวุ่นวายและมีชีวิตชีวาราวกับไม่เคยหลับใหลของย่านทองหล่อ การได้แวะไปทำความรู้จัก Sanctuary Bangkok รูฟท็อปบาร์บนชั้น 34 ของโรงแรม InterContinental Bangkok Sukhumvit กลับทำให้เรารู้สึกเหมือนได้หลบไปนั่งตากลมริมทะเลหรือสักแห่งหนที่ถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติ สมกับชื่อร้านที่แปลว่า ‘พื้นที่หลบภัย’ จริงๆ
Sanctuary Bangkok ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ ‘เรือโนอาห์’ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยมนุษย์และสัตว์จากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอยู่รอดและการเริ่มต้นใหม่ตามความเชื่อของชาวคริสต์ ด้วยแรงบันดาลใจดังกล่าว รูฟท็อปบาร์แห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่หลบภัยความวุ่นวายของเมืองหลวงสำหรับทุกคน เป็นอีกหนึ่งบาร์ในเครือ Tichuca ที่น่าจะประสบความสำเร็จตามกันไปได้ไม่ยาก




จุดเด่นของ Sanctuary Bangkok คือสถาปัตยกรรมทรงใบไม้ยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิด Biophilic Design หรือ การออกแบบสถาปัตยกรรมที่เชื่อมโยงผู้คนและธรรมชาติเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นผลงานของ Paper Plane Studio
ฟังก์ชันของสถาปัตยกรรมชิ้นนี้มีทั้งการเป็นหลังคาของร้าน เป็นอุโมงค์ที่มีลมพัดผ่านตลอดทั้งคืน และยังช่วยแก้จุดอ่อนเรื่องโลเคชันที่ห้อมล้อมด้วยตึกสูงแถมอีกฝั่งก็มีตึกโรงแรมบังจนกลายเป็นรูฟท็อปวิว 180 องศาได้เป็นอย่างดี โดยผู้ออกแบบเลือกวางโครงสร้างของสถาปัตยกรรมตามแนวยาวของตึกแล้วใช้ด้านข้างที่โอบลงมาบดบังป่าคอนกรีตของย่านทองหล่อ ลักษณะคล้ายอุโมงค์ที่ส่วนปลายเปิดรับวิวด้านติดถนนสุขุมวิทซึ่งสิ่งปลูกสร้างหนาแน่นน้อยกว่าและมองเห็นคุ้งน้ำเจ้าพระยาอยู่ไกลๆ
วัสดุของของโครงสร้างจำเป็นต้องใช้เหล็กเพื่อความแข็งแรงทนทาน แล้วเลือกเก็บรายละเอียดด้วยวัสดุธรรมชาติแทน เช่น หลังคาที่มุงด้วยไม้ซีดาร์ ฝ้าใช้หวายและไม้ไผ่ที่ติดเรียงขนานกันจนเกิดเป็นลายเส้นคล้ายเส้นใบของพืชสักชนิด ยิ่งทำให้สถาปัตยกรรมนี้ดูคล้ายใบไม้ใหญ่ที่หล่นลงมาคว่ำอยู่บนยอดตึก และยังได้ศิลปินมาเพนต์ลายไม้บนเหล็กท่อนใหญ่ที่โค้งเป็นกรอบอยู่ด้านนอกสุด
ใบไม้ยักษ์ใบนี้ซ่อนลูกเล่นด้วยการติดตั้งไฟไว้ในฝ้าแทนการสาดไฟใส่จากด้านนอก ซึ่งนอกจากแสงจะไม่สว่างเกินไปจนรบกวนคนนั่งบาร์แล้ว การทำให้แสงเบาลงด้วยวิธีนี้ยังช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีกว่า รวมถึงช่วยขับรายละเอียดของเส้นใบอันเกิดจากหวายและไผ่ลำเล็กบนฝ้าให้ชัดขึ้นด้วย




สำหรับเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของ Sanctuary Bangkok ออกแบบโดย Tom Liu Liu บาร์เทนเดอร์ชาวไต้หวัน เจ้าของบาร์ Tei by O’bond ที่ไทเป แบ่งเครื่องดื่มออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ Familiar Flavourtails เครื่องดื่มที่ใช้วัตถุดิบคุ้นเคยของคนไทย เช่น ตะไคร้ ผักชีลาว ชบา ใบเตย มินต์ เป็นหมวดที่เข้าใจง่าย ต่อมาคือ Comfortails จะเป็นค็อกเทลของหวานที่มีทั้งข้าวเหนียวมะม่วง ลูกชุบ โรตีกล้วย เป็น 2 หมวดแรกที่เน้นจิบแบบสบายๆ
แต่ถ้าอยากได้ความซับซ้อนขึ้นมาหน่อยจะเป็นหมวด Wildtails ซึ่งเลือกใช้วัตถุดิบที่ท้าทายขึ้น เช่น ไข่มดแดง แมงดา ปลาร้า และหัวล็อบสเตอร์ ทำให้เครื่องดื่มมีความแปลกใหม่และเป็นแนวเซเวอรีทั้งหมด ส่วนหมวดสุดท้ายคือ Champagne Cocktails มาพร้อมประสบการณ์เปิดขวดแชมเปญฉลองในโอกาสพิเศษต่างๆ แต่ในขวดเป็นเครื่องดื่มที่เข้าถึงง่ายกว่า (สามารถสั่งเป็นแก้วได้ด้วย) โดยเครื่องดื่มหมวดนี้จะโดดเด่นด้วยผลไม้และดอกไม้อย่างดอกยาร์โรว์ สตรอวเบอร์รี พีช ส้มโอ องุ่นขาว ฯลฯ
อาหารที่นี่ก็นำรสชาติที่คนไทยคุ้นเคยมานำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น จานที่น่าสนใจคือลิ้นวัวที่นำไปซูวีกับซอสกะเพรา เสิร์ฟคู่กับซอสกะเพราเคี่ยวและผักเคลทอดกรอบ และออยส์เตอร์ที่ปรับซอสและเครื่องเคียงให้มีรสชาติใกล้เคียงกับการกินหอยนางรมสไตล์ไทย





