ปีนี้ Sra Bua by Kiin Kiin จะเปิดให้บริการในประเทศไทยครบ 15 ปี ในเดือนกันยายน ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าที่นี่ปรับตัวเองอยู่เสมอ แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วย ‘อาหารไทยโมเดิร์น’ เรียกว่าเป็นร้านแรกๆ ที่นำเอาอาหารคาวมานำเสนอเป็นของหวาน อย่างไอศกรีมแกงแดง จนเคยได้มิชลินสตาร์ 1 ดาว และล่าสุดกับ ‘การชูวัตถุดิบท้องถิ่น และใส่ใจเรื่องความยั่งยืน’ แน่นอนว่าทุกครั้งที่เชฟ Henrik Yde-Andersen ปรับเปลี่ยนอะไร ล้วนผ่านกระบวนการคิดมาแล้วอย่างดี
.
ด้วยความที่เชฟเริ่มเปิดร้าน Kiin Kiin ร้านอาหารไทยในเดนมาร์ก เชื่อได้เลยว่าต้องนำเข้าวัตถุดิบอาหารไทยเหมือนทุกร้านอาหารไทยในยุโรปอย่างแน่นอน ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเปิด Sra Bua by Kiin Kiin แล้วเชฟจะให้ความสำคัญกับวัตถุดิบท้องถิ่นที่เขาพยายามหามาใช้ในเดนมาร์ก เพราะที่นี่เขาจะใช้วัตถุดิบอะไรทำอาหารไทยก็ได้
.
ล่าสุดที่นี่เดินหน้าส่งเสริมความยั่งยืนของอาหารไทยอย่างจริงจัง ทั้งการให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการเกษตรกรรมและการประมง ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านเซตเมนูล่าสุด ‘The Legends of the Lotus-The Blooming Dawn’ ที่ให้เลือกคอร์สอาหารได้ทุกคอร์ส ตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย ไปจนถึงของหวาน มื้อกลางวัน มีให้เลือก 3 คอร์ส ราคา 2,200++บาท และ 5 คอร์ส ราคา 3,800++บาท ส่วนมื้อค่ำ ราคา 4,600++บาท
.
ที่นี่ยังคงมีเชฟเบิ้ม-ชยวีร์ สุจริตจันทร์ เชฟใหญ่ชาวไทยดูแล และทำการบ้านร่วมกับเชฟเฮนริคในการเปลี่ยนเมนูในทุกซีซั่น สำหรับประสบการณ์ของที่นี่ยังคงเหมือนเดิมโดยเริ่มที่ Street Food ที่เชฟเฮนริคได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ เมอแรงก์วาซาบิโยเกิร์ต เวเฟอร์สะเต๊ะ น้ำพริกหนุ่มแคปหมูข้าวพอง หอยทากทะเลปรุงรส โดนัทไส้เห็ดชิเมจิผัดกะเพรา เมี่ยงคำ และยำรากบัว
.
ส่วนคอร์สอาหารในรอบนี้มีเมนูใหม่อย่าง ต้มโคล้งปลากรอบ สลัดหอยแตงกวาน้ำมันกะเพราและผักชี ยำเทอร์รีนปลาหมึกยักษ์ ล็อบสเตอร์ค็อกเทลท็อปด้วยโฟมบิสก์ อกเป็ดราดซอสเอ็กซ์โอ และพาร์เฟต์ข้าวโพดสเลอร์ปีมะพร้าวเผา และจบลงด้วยเปอติต์โฟร์ที่ให้เราเล่าสนุกกับพริก เลโก้ หิน อบเชย และไข่มุก
.
และข่าวดี ครั้งหน้าเชฟเฮนริควางแผนที่จะเดินทางมาไทยในช่วงเดือนกันยายนนี้ พร้อมการนำเอาเมนูยอดนิยมตลอด 15 ปี ที่เปิดไห้บริการกลับมาให้เราได้ชิมในโอกาสครบรอบ 15 ปีของร้านด้วย
.
Sra Bua by Kiin Kiin ภายใน Siam Kempinski Hotel Bangkok