แจกพิกัดปักหมุดย่านท่าเตียน-วัดโพธิ์ รวมครบทั้งคาเฟ่-ร้านอาหาร-บาร์
ถึงแม้ว่าย่านท่าเตียน-วัดโพธิ์ จะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในหมู่วัยรุ่นและคาเฟ่ฮ็อปเปอร์ชาวไทยเหมือนอย่างในละแวกเมืองเก่าใกล้เคียง แต่ย่านนี้ถือเป็นหนึ่งในย่านโอลด์ทาวน์อันโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยความที่มีวัดสวยๆ รายล้อมอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นแหล่งร้านอาหารชื่อดังหลายร้าน ตั้งแต่ร้านไฟน์ไดนิ่ง สปีกอีซีบาร์ ไปจนถึงคาเฟ่ และร้านโลคัลเก่าแก่
อีกหนึ่งความพิเศษของย่านนี้ คือความผสมกลมกลืนระหว่างวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่สอดแทรกไปพร้อมกับความการมาถึงคนของรุ่นใหม่ใหม่ที่ไม่ได้ทำให้ภาพเมืองเก่าและวัดวาในย่านนี้ถูกด้อยค่าลงแต่อย่างใด
ใครที่กำลังวางแผนจะไปฮ็อปปิงย่านนี้อยู่ล่ะก็ อย่าลืมจดเช็กลิสต์ของเราไว้ เวลาไปเดินจริงๆ จะได้ไม่พลาดบรรดาร้านน่าลองที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้
หนึ่งในผลงานร้านอาหารในเครือของคุณอู้-นพปฎล พหลโยธิน และคุณบอล-นัธทวัฒ ธาราภิบาล ที่ชาวฟู้ดดี้เมืองไทยรู้จักดีหลายร้าน อาทิ Contento, Bimbo, Rongros และ The Shed โดย Horsamut มาภายใต้คอนเซ็ปต์ร้านอาหารไทย ที่ใช้วัตถุดิบเรียบชายฝั่งทางทะเลและแม่น้ำจากทั่วประเทศไทยมาเป็นคีย์เวิร์ดหลัก
เราเลยจะได้เห็นเมนูอย่างต้มยำกุ้งแม่น้ำ ข้าวผัดสับปะรด หมึกไข่แดดเดียวย่าง รวมถึงหมูโกงกาง ถูกจับมาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้ โดยเป็นการชูรสชาติอาหารไทยด้วยวัตถุดิบหากินยากที่ถูกปรุงมาอย่างดี
อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือบรรยากาศการตกแต่งร้านในไวบ์แบบเมดิเตอเรเนียน พร้อมวิวสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีไฮไลต์เป็นพระปรางค์วัดอรุณที่อยู่เยื้องๆ ในฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ
Horsamut เปิดทุกวัน 11:00-23:00 น.
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งติดอันดับ 3 ในลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurant ปี 2023 ผลงานของเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร และน้องชาย คุณตาม-ชัยสิริ ทัศนาขจร ในโลเคชั่นใหม่สุดปัง เห็นวิววัดโพธิ์แบบเต็มๆ พร้อมดีเทลการเล่นสีที่ถอดแบบมาจากหลังคาของวัดโพธิ์ตรงหน้า ภายในร้านทำเป็นโทนสีแดง เขียว และสีเหลือง และออนท็อปด้วยวิววัดโพธิ์จากหน้าต่างบานใหญ่ของร้าน ที่น่าจะเป็นร้านอาหารแห่งเดียวในย่านท่าเตียนที่มาพร้อมกับวิวอลังการขนาดนี้ ส่วนอาหารก็ดีงามสมมงรางวัลที่ได้มา โดยเป็นอาหารไทยโบราณจากสูตรคุณยายของเชฟต้นนั่นเอง
Nussara ถนนมหาราช เปิดทุกวัน 18:00 - 23:00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น)
บาร์ค็อกเทลสุดป๊อปที่ใช้พื้นที่ชั้นบนของร้านไฟน์ไดนิ่งอย่าง Nussara มาเปิดเป็นสปีกอีซีบาร์สุดหรู และไม่เพียงเท่านั้น ชื่อของ Nuss Bar (นุสบาร์) ยังมาจากชื่อเล่นของคุณยายนุสรา คุณยายของเชฟต้นผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับร้านอาหารแห่งนี้ เพราะอยากให้นุสบาร์เป็นพื้นที่สบายๆ ใครก็สามารถแวะเข้ามานั่งดื่มได้ชิลๆ โดยไม่จำเป็นต้องมากินอาหารที่นุสราก็ได้ ส่วนค็อกเทลของนุสบาร์จะเน้นเสิร์ฟพวกคลาสสิกทวิสต์หน้าตาดี
Nuss Bar ถนนมหาราช เปิดทุกวันพุธ - จันทร์ เวลา 17:00 - 00:00 น.
คาเฟ่สไตล์มินิมัลกลิ่นอายเรียบง่าย ไว้ให้เราได้นั่งพักกายปล่อยใจกันในย่านท่าเตียน ด้านในตกแต่งในมู้ดคลีนๆ ด้วยไม้สีอ่อนที่มีกลิ่นอายแบบสแกนดิเนเวียนนิดๆ ส่วนเครื่องดื่มขึ้นชื่อของร้านนี้ได้แก่ Sesame Latte ลาเต้งาดำที่เหมาะสำหรับคนชอบกาแฟนมที่มีกลิ่นหอมของงาคั่วอ่อนๆ รวมถึง Dirty ของร้านนี้ก็ทำออกมาได้ยืนหนึ่งไม่แพ้ใครในท่าเตียน
เดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของตึกห้องแถวเก่าเล็กๆ ในย่านท่าเตียน เราจะได้พบกับคาเฟ่ขนมชูโรส (Churros) ที่ทำสดทุกชิ้น มีหลายรสชาติให้ได้เลือกสั่ง ทั้งออริจินัล ช็อกโกแลต ไวท์ช็อกครีมชีสโอรีโอ้ หรือจะสั่งมาทานคู่กับไอศกรีมก็ได้เหมือนกัน
เชื่อว่าคอกาแฟหลายคนอาจจะคุ้นหูกับชื่อ SCR หรือ Songwat Coffee Roasters ที่มีสาขาแรกอยู่ในถนนทรงวาดอย่างแน่นอน สำหรับ SCR สาขานี้ เป็นอีกหนึ่งร้านที่แตกเครือออกมาจากสาขาแรกที่ทรงวาด เพื่อมาเปิดในย่านเมืองเก่าอย่างท่าเตียน
SCR สาขาท่าเตียน มีไฮไลต์อยู่ที่ความหลากหลายของเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมาจากทั่วไทยและทั่วโลก พร้อมคุมคุณภาพได้ดี ทำให้ร้านนี้กลายเป็นร้านประจำสำหรับชาวท่าเตียน รวมถึงเป็นสภากาแฟขนาดย่อมที่เหล่าเซียนกาแฟหลายคนมักจะแวะมาลองลิ้มชิมรสเสมอ
ร้านสตรีตฟู้ดสไตล์ไทยที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเมนู ‘เนื้อย่าง’ โดยร้านนี้จะเลือกเฉพาะเนื้อที่ติดมันเล็กน้อยมาย่างให้มีความสุกแบบมีเดียมแรร์ตามชื่อร้านพอให้ได้เคี้ยวสู้ลิ้น เสิร์ฟมาในเขียงไม้พร้อมน้ำจิ้มแจ่ว มีให้เลือก 3 ขนาด คือ S M และ L นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอีสานแบบครบเครื่อง ทั้งส้มตำ ยำ ลาบ น้ำตก ต้มแซ่บ ให้สั่งมากินพร้อมเนื้อย่าง ที่เก๋มากๆ คือร้านนี้เขามีไวน์ลิสต์จำนวนมากให้สั่งมาจิบพร้อมอาหารอีสานและเนื้อด้วย
Medium Rare ท่าเตียน ถนนมหาราช เปิดทุกวัน 16:00-00:00 น.
ร้านอาหารไทยเจ้าของฉายา “ร้านจองยาก” ของคุณโอม-ฐานทัศน์ ชมภูพล เจ้าของร้านอารมณ์ดีที่มักจะบอกว่าอาหารของเขาไม่มีชื่อเรียกที่แน่ชัด แต่อยากใส่อะไรก็ใส่ไป จุดเริ่มต้นเกิดจากโอมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ชอบทำอาหารมาก เข้าครัวช่วยแม่หยิบจับตั้งแต่เด็กและยังมีหัวคิดสร้างสรรค์ดัดแปลงสูตรไปเรื่อย ด้วยความที่รสมือดีเลยไม่ได้แค่ทำกินเอง แต่ยังเผื่อแผ่ให้เพื่อนด้วย ด้วยแรงยุของเพื่อน และเกิดจับพลัดจับผลูมาได้ตึกแถว เนื่องจากตัวร้านมีไซซ์เล็กจิ๋วพอสำหรับแค่ 5 โต๊ะ เพราะฉะนั้นใครอยากไปร้านนี้ต้องจองคิวล่วงหน้านาน (หลายเดือน) สักหน่อย
แสงท่าเตียน เปิดทุกวัน 17:00-21:00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น)
เราอยากนิยามสไตล์อาหารของร้าน Tana ด้วยคำว่า home-cooked มากๆ เพราะร้านนี้นำเสนอรสชาติประจำบ้านผ่านอาหารฝีมือคุณแม่ อย่างเช่น ข้าวหน้าหมูธนาเสิร์ฟพร้อมแตงโมดอง หรือหมูตุ๋นสมุนไพร 18 ชนิด ฯลฯ ซึ่งเมนูอาหารของบ้านนี้เขาจะเป็นอาหารสไตล์จีนพื้นบ้านผสมไทยนิดๆ อารมณ์ครอบครัวคนจีนโบราณ ส่วนวัตถุดิบก็จะสรรหามาจากตลาดท่าเตียนใกล้บ้านนั่นเอง
Tana 117 ถนนมหาราช เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ 11:00-17:00 น. (ศุกร์ - เสาร์ เปิดถึง 20:00 น.)
ร้านเค้กสุดฮิปในตึกแถวอายุกว่า 100 ปีแห่งนี้ ซึ่งร้านนี้คือหนึ่งในอาณาจักรของเครือ It's "Happened to be" a Closet ที่วางใจเรื่องรสชาติและคุณภาพที่ดีเสมอต้นเสมอปลายได้เสมอ เมนูเค้กของที่นี่เขามีให้เลือกแบบละลานตา โดยทั้งหมดจะถูกโชว์อยู่ที่ตู้เค้กด้านหน้าร้านติดฝั่งถนนคนเดิน ซึ่งเราสามารถเดินไปเลือกเค้กจากหน้าตู้แล้วสั่งมานั่งกินในร้านได้เลย
A Pink Rabbit + Bob ถนนมหาราช เปิดให้บริการวันพุธ - จันทร์ 10:00 - 22:00 น.
โรงรถเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ถูกนำมาปรับโฉมใหม่จนกลายร่างเป็นร้านอาหารเปี่ยมรสที่ใครๆ ต่างก็อยากมาลอง ตัวร้านด้านในเลือกใช้ผนังปูนเก่ามาตัดความเลี่ยนของโทนสีน้ำเงิน-ทองจากสีภายนอกและบานหน้าต่าง พร้อมใส่ดีเทลความหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ลายคราม สื่อถึงวัฒนธรรมอาหารสไตล์ไทย-จีนโบราณ มีเมนูแนะนำเป็นปลาแห้งแตงโม พร้อมเสริมด้วยเครื่องดื่มแสนสดชื่นให้แวะนั่งจิบในระหว่างวัน
โรงรส ถนนมหาราช เปิดทุกวัน 11:00-15:00 น. และ 17:00-22:00 น.
หากคุณเดินเล่นในย่านเมืองเก่าแล้วรู้สึกร้อน เราอยากชวนคุณไปดับร้อนด้วยเจลาโต้เย็นชื่นใจกันที่ร้าน Ghee Gelato House ที่นี่เป็นร้านโฮมเมดเจลาโต้เนื้อฟูข้น มีรสชาติไฮไลต์เริ่มจากดาร์กช็อกโกแลต แมคคาดาเมีย รวมถึงรสเสาวรสเปรี้ยวอมหวาน จะซื้อแบบเป็นวาฟเฟิลโคนหรือเป็นถ้วยก็ได้เหมือนกันร้านโฮมเมดเจลาโต้เนื้อฟูข้น
Ghee Gelato House เปิดอังคาร-อาทิตย์ 12:30-19:00 น.
โปรเจ็กต์ร้านสุราเมรัยที่แยกออกมาโดยเฉพาะของเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่มีไว้สำหรับเป็นจุดพักกายปล่อยใจหากใครมาฮ็อปปิงย่านนี้แล้วไม่รู้จะแวะไปไหนดี ที่นี่มีเนเชอรัลไวน์สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ได้ทดลองชิมเรื่อยๆ หรือถ้าอยากจะลองอะไรโลคัลๆ ลองกระซิบถามถึงยาดองดู เพราะเมรัยมีสูตรยาดองของตนเองที่ปรุงจากสมุนไพรถึง 12 ชนิดด้วยนะ
สำหรับเมนูอาหารไทยรสจัดจ้านที่ร้านนี้ เราต้องขอยกความดีความชอบให้เมนูผัดไทย ที่เชฟต้นเปิดราคามาเพียงแค่จานละ 79 บาทสำรับผัดไทยธรรมดา หรือจะลองขั้นกว่าอย่างผัดไทยกุ้งแม่น้ำที่มาในราคาจานละ 690 บาท ส่วนอาหารเส้นเมืองเหนือต้องไม่พลาดลองสั่งข้าวซอยเนื้อวากิว ที่คอเนื้อว่าคุ้มค่าคุ้มราคาชามละ 390 บาท
เมรัย ถนนมหาราช เปิดวันพุธ-จันทร์ 12:00-21:00 น.
ร้านอาหารไทยเข้าใจง่าย จุดแวะพักทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวพื้นที่ให้มานั่งกินมื้อเช้าควบมื้อเที่ยงแบบเย็นใจในบรรยากาศคลาสสิกของตึกแถวเก่าอายุกว่า 100 ปีในย่านท่าเตียน มีเมนูไฮไลต์เป็นแกงไทยอย่างต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวาน ไปจนถึงผัดไทยกุ้งสดและส้มตำ
The Sixth 6th เปิดทุกวัน 10:30-16:45 น.
‘ฮาเตียน’ คือชื่อเดิมของย่านท่าเตียนแห่งนี้ จึงถูกนำมาใช้เป็นชื่อคาเฟ่สไตล์แอนทีคในห้องแถวเล็กๆ อายุกว่าร้อยปี ซึ่งถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจงานหายาก เพิ่มความดิบด้วยการโชว์อิฐแดงที่ใช้ทำผนัง และใส่พร้อบแน่นๆ ด้วยแชนเดอเลียร์ขนาดเล็ก กรอบรูปสีทองบนผนัง และของสะสมอย่างนกสตัฟฟ์ ดูๆ ไปก็มีความคล้ายว่านั่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์ปีก ส่วนเครื่องดื่มและอาหารนั้นก็มีหลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งคนที่ชอบดื่มกาแฟ ชอบดื่มน้ำผลไม้ หรือชอบกินของหวาน
ฮาเตียน ถนนมหาราช เปิดทุกวัน 10:00-18:00 น.
