อัปเดตบาร์คราฟต์เบียร์น่าไปในกรุงเทพฯ ช่วงนี้ ซึ่งเรารวมมาทั้งร้านที่อยู่ในโซนใจกลางเมืองและร้านที่ไกลออกไปหน่อยแต่ไปแล้วไม่ผิดหวัง เพราะแต่ละร้านนอกจากจะมีคราฟต์เบียร์ทั้งไทยและต่างประเทศแล้ว เรื่องอาหาร ดนตรีและบรรยากาศก็เหมาะกับการไปแฮงเอาต์แม้จะไม่ใช่สายดื่มก็ตาม
โรงเบียร์เจ้าดังจากถนนกาญจนาภิเษก เข้ามาเปิดสาขาใจกลางเมืองครั้งแรกในรูปแบบแฟรนไชส์ที่ชั้น 4 Amarin Tower ให้ได้นั่งชิลพร้อมชมวิวเมือง ยิ่งไปตอนพระอาทิตย์ตกบรรยากาศยิ่งดี พอมืดก็มีดนตรีสดให้ฟังต่อและยังมีศิลปินดังไปเล่นที่ร้านเป็นประจำ
สาขานี้มาพร้อมเครื่องดื่ม 15 แท็ปทั้งคราฟต์เบียร์ไทยและคราฟต์เบียร์จากต่างประเทศที่จะผลัดเปลี่ยนมาให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักแบบไม่ซ้ำ สามารถดูข้อมูลเครื่องดื่มได้ที่ระบส่วนกลางที่ Brewave พัฒนาขึ้นมา โดยระบบจะแสดงผลแบบเรียลไทม์และตรงกับหน้าร้านตลอดว่าในแต่ละวันเบียร์อะไรบ้าง
ร้านใหม่บนถนนพัฒนาการ เจ้าของคือ ‘เบน-วิจักษ์ พิรักษา’ กราฟิกดีไซเนอร์ผู้หลงใหลในความหลากหลายของคราฟต์เบียร์จนผันตัวมาเป็น home brewer ที่กำลังพัฒนาเบียร์ของตัวเองและเปิดบาร์คราฟต์เบียร์
คุณเบนเป็นหนุ่มอีสาน ถ้าเป็นเพื่อนสนิทที่บ้านเกิดจะเรียกว่า ‘บักเบน’ เพราะ บัก แปลว่า ไอ้ ในภาษากลาง และยังพ้องเสียงกับคำว่า bug ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า แมลง พอรวมกันก็เลยได้เป็นชื่อร้านที่น่ารักและจำง่ายอย่าง Bugben
Bugben คือบาร์คราฟต์เบียร์ขนาดกะทัดรัด เสิร์ฟเฉพาะคราฟต์เบียร์ไทยโดยมีตั้งแต่แบรนด์ดังที่เคยได้รางวัล ไปจนถึงเบียร์แบรนด์ใหม่ๆ ของ brewer ที่เพิ่งเริ่มทำคราฟต์เบียร์ เพราะต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการและวงการคราฟต์เบียร์ในบ้านเรา
เครื่องดื่มแบบ on tap มีให้สั่ง 6 สไตล์ เช่น Weizen, Hazy Pale Ale, Pale Ale, DDH IPA, Vanilla Porter ฯลฯ ราคาเริ่มต้นแก้วละ 125 บาท (ไซซ์ S) นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องดื่มทั้งแบบขวดและกระป๋องแช่เย็นพร้อมเสิร์ฟอยู่ในตู้ และถ้าหิวก็สามารถสั่งอาหารได้จากร้านข้างๆ มาเสิร์ฟได้
บาร์คราฟต์เบียร์ที่อยู่ใกล้กับย่านข้าวสารแห่งนี้ เป็นร้านแรกและร้านเดียวในกรุงเทพฯ ที่ใช้ระบบ Pull Your Own Beer ซึ่งก่อนจะใช้บริการต้องเติมเงิน (เริ่มต้นที่ 100 บาท) จากนั้นก็จะได้บัตรสำหรับใช้กดเครื่องดื่มที่แท็บด้วยตัวเอง สามารถกดได้กี่ชนิดก็ได้ ปริมาณเท่าไหร่ก็ได้ ภายในจำนวนเงินที่เติมเข้าไป ทำให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักกับเครื่องดื่มได้หลากหลาย
คราฟต์เบียร์ที่ Apron Bar มีทั้งหมด 18 แท็ปที่จะผลัดเปลี่ยนคราฟต์เบียร์หลากหลายแนวมาให้ลองเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นคราฟต์เบียร์จากต่างประเทศ ซึ่งแต่ละแท็ปจะมีข้อมูลของคราฟต์เบียร์อย่างครบถ้วนตั้งแต่ราคาต่อปริมาณ ประเทศที่ผลิต โรงเบียร์ ประเภทของเบียร์ ชื่อเบียร์ ปริมาณแอลกอฮอล์ (ABV) และค่าความขม (IBU) แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลอื่นๆ ก็สามารถพูดคุยกับพนักงานได้
เรื่องอาหารของที่นี่ดูแลโดยเชฟมากประสบการณ์จากโรงแรมดังหลายแห่ง มีทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตก จานแนะนำ ได้แก่ Smoke Salmon (350 บาท), ข้าวหน้าไก่ (180 บาท), ข้าวหน้าเนื้อ (250 บาท) และสเต๊กเนื้อ AUS Ribeye (690 บาท)
บาร์คราฟต์เบียร์ที่เปิดแผ่นเสียงไวนิลไม่ค่อยมีให้เห็น เพราะส่วนมากจะถูกจับคู่กับดนตรีสด แต่ที่ Aftersun Listening Bar เลือกที่จะแตกต่างจากร้านส่วนมากและสำหรับเราถือว่าเป็นการจับคู่ที่ถูกต้องไม่แพ้การเล่นดนตรีสดเลย และด้วยความที่พาร์ตเนอร์ของร้านเป็นดีเจแผ่นเสียงที่มีประสบการณ์มานาน จึงนำคอลเล็กชั่นส่วนตัวที่สะสมมานานกว่า 10 ปีมาเปิด แต่ก็จะมีดีเจรับเชิญสลับมาเปิดแผ่นที่ร้านด้วย มีทั้งแนวโซล ฟังก์ อาร์แอนด์บี เน้นสร้างบรรยากาศให้เป็นร้านที่เหมาะกับการแวะมานั่งพักผ่อนและฟังเพลงชิลๆ
คราฟต์เบียร์ที่นี่มีทั้งหมด 10 แท็ปตามประเภทของเบียร์ เช่น IPA, Witbier, Hazy IPA, Fruit Beer ฯลฯ ส่วนมากจะเป็นคราฟต์เบียร์จากต่างประเทศ แท็ปไหนหมดก็จะเปลี่ยนคราฟต์เบียร์ประเภทเดิมจากแบรนด์อื่นๆ มาลงแทนเพื่อให้ลูกค้าได้ลองดื่ม วันที่เราไปคราฟต์เบียร์ราคาเริ่มต้นแก้วละ 129 บาท (แก้วเล็ก) ส่วนอาหารจะเป็นแนวโฮมคุกใช้สูตรที่บ้านเจ้าของร้าน และกับแกล้ม ของกินเล่นง่ายๆ
หลังจากปักหลักที่ย่านสนามเป้ามานานถึง 4 ปีจนหมดสัญญา Bottle Rocket ก็ย้ายร้านมาอยู่แถวสีลมบนถนนพระราม 4 ไม่ไกลจากตึก Silom Edge ชื่อร้านมาจากชื่อหนังของ Wes Anderson ที่ฉายในปี 1996 และยังตกแต่งร้านด้วยพาเลตสีแบบเดียวกับหนังเรื่องดังกล่าวด้วย และของตกแต่งในร้านส่วนใหญ่ก็มาจากร้านเดิมที่เน้นใช้งานเหล็กและอะลูมิเนียมเพื่อสื่อถึงจรวด
คราฟต์เบียร์มีมากถึง 30 แท็ป ส่วนมากจะเป็นคราฟต์เบียร์จากต่างประเทศและมีคราฟ์เบียร์ไทยประมาณ 10 แท็ป และจะหมุนเวียนคราฟต์เบียร์ใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลองอยู่เรื่อยๆ ส่วนอาหารจะเป็นแนวกับแกล้ม อาหารจานเดียว โดยเสิร์ฟอาหารไทยเป็นหลัก
เรื่องดนตรีที่ร้านจะดนตรีสดทุกวัน (ยกเว้นวันอาทิตย์) เล่นทั้งเพลงไทยและสากลหลากหลายแนว เน้นฟังง่าย ร้องตามได้ และทุกเดือนจะมีคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง
บาร์คราฟท์เบียร์ไทยบนถนนบรรทัดทอง ก่อตั้งโดยกลุ่มคนที่รักและภูมิใจในคราฟท์เบียร์และสุราไทย ชื่อร้านเป็นคำไทยที่แปลตรงตัวจาก Craft (ประดิษฐ์) + Beer (เบียร์) ที่ร้านมีคราฟต์เบียร์ 24 แท็ป มาจากโรงเบียร์ไทยทั้ง 4 ภาคโดยจะหมุนเวียนอยู่เรื่อยๆ ตามฤดูกาลของเบียร์
นอกจากนั้น Beer Pradith ยังได้ร่วมกับโรงเบียร์สหประชาชื่น (United People Brewery) เปิดตัวคราฟต์เบียร์ซิกเนเจอร์ของร้าน 2 ประเภทที่ได้แรงบันดาลใจจากย่านบรรทัดทองและสามย่าน ได้แก่ บรรทัดทอง Golden Ale คราฟต์เบียร์สีเหลืองทองรสชาติไม่ขมมาก หอมกลิ่นฮอปส์ และมีกลิ่นฟรุ้ตตี้บางๆ จากลิ้นจี่ และ สามย่าน Triple IPA รสชาติเข้มข้นด้วยฮอปส์จากนิวซีแลนด์ รสชาติออกฟรุ้ตตี้นิดๆ