
ล่าสุดยังไม่มีการประกาศ “ดาวมิชลิน” เพิ่มแต่อย่างใด แต่บอกเลยว่านี่อาจจะเป็น “โค้งสุดท้าย” กับการตามเก็บดาวมิชลิน เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาประกาศผลรางวัลร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกในคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' ฉบับประเทศไทย ประจำ พ.ศ. 2568 ในช่วงปลายปี ซึ่งบางร้านอาจจะได้ดาวเพิ่ม หรือบางร้านอาจจะดาวหลุด รวมถึงอาจจะมีการปรับราคาคอร์สอาหาร
เราเลยไปรวบรวมราคาอัปเดตล่าสุดของร้านอาหารในกรุงเทพฯที่ได้ดาวทั้งหมดมา รวม 33 ร้าน แบ่งเป็นร้านอาหารมิชลิน 2 ดาว จำนวน 7 ร้าน และร้านอาหารมิชลิน 1 ดาว จำนวน 26 ร้าน พร้อมข้อมูลการจอง และราคาอัปเดตล่าสุด


ร้านอาหารไทยร้านแรกในโลกที่ได้มิชลิน 3 ดาว นำเสนออาหารปักษ์ใต้โดยเชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ ที่ปั้นอาหารปักษ์ใต้ไปสู่ความเป็นร้านอาหารระดับโลก เรียกว่ามีความสม่ำเสมอมากในเรื่องรสชาติ ที่จัดจ้านเกินกว่าที่ร้านไฟน์ไดนิ่งจะทำออกมา เล่าผ่านเทสติ้งเมนูและวัตถุดิบที่เชฟไอซ์และทีมตระเวนเฟ้นหามาให้คนกินอย่างเราได้รู้จักภาคใต้ของประเทศไทยมากขึ้น


ห้องอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่ได้มิชลิน 2 ดาว มายาวนานถึง 8 ปีซ้อน โดยมีเชฟใหญ่ชาวญี่ปุ่น Ryuki Kawasaki นำทีมมาโดยตลอด จุดเด่นของอาหารอยู่ที่เทคนิคฝรั่งเศส แต่เชฟริวกินำเอากลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นมาสอดแทรกไว้ในอาหารฝรั่งเศสได้อย่างแนบเนียน ผ่านอาหารทั้งหมด 7 คอร์ส เราว่าไฮไลต์เมนูของเชฟริวกิอยู่ที่เมนคอร์ส โดยเฉพาะจานเนื้อวัวที่เชฟเลือกใช้เนื้อวัวญี่ปุ่น


ปีนี้ร้านอาหารบ้านเทพาได้มิชลิน 2 ดาว เป็นปีที่ 2 ควบ รางวัลมิชลินดาวรักษ์โลก หรือ Michelin Green Star 2025 สำหรับบ้านเทพานำเสนออาหารไทยร่วมสมัยที่เกิดขึ้นจากการเดินทางทั่วไทยของเชฟตามและทีมเพื่อหาวัตถุดิบท้องถิ่นที่น่าสนใจและยังไม่ถูกนำมาใช้ให้เป็นที่รู้จักผ่านอาหารทั้ง 9 คอร์ส
นอกจากนี้ยังนำเสนอแนวคิดจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ผ่านวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ยั่งยืน ซึ่งบางส่วนมาจากสวนหลังบ้านของเธอเอง ในครัวยังไม่มี 'ขยะอาหาร' แต่แปรรูปวัตถุดิบเหลือทิ้งไปเป็นเครื่องปรุงรสชั้นเลิศ รวมถึงนำเอาเปลือกปูมาแปรรูปเป็นของตกแต่งโต๊ะอาหารที่มีศิลปะ และเศษผลไม้และผักแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก


ห้องอาหารฝรั่งเศสโดยเชฟ Vincent Thierry เชฟแถวหน้าจากลุ่มแม่น้ำลัวร์ ที่พาร้านอาหารแห่งนี้ได้ 2 ดาว มาตั้งแต่ปีแรกที่มีการประกาศรางวัลมิชลินในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน เชฟเล่าเรื่องอาหารฝรั่งเศสสมัยใหม่ผ่านเทสติ้งเมนู 7 คอร์ส


ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน โดยเชฟแฝด Thomas & Mathias ที่นำเสนออาหารเยอรมันสมัยใหม่ ผสมผสานความทรงจำในวัยเด็ก อาหารที่กินกันในครอบครัว และประสบการณ์การเดินทาง สรุปรวมออกมาเป็นอาหารในแบบของเชฟแฝด เมนู Sühring Erlebnis ให้บริการทั้ง 2 มื้อ มื้อกลางวัน มีให้เลือก 3 คอร์ส ราคา 4,800++บาท, 6 คอร์ส ราคา 7,800++บาท และ 9 คอร์ส ราคา 9,800++บาท


ร้านอาหารโดยเชฟ Garima Arora เจ้าของรางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award 2022 ซึ่งในปีนี้คว้ามิชลิน 2 ดาว เป็นปีที่ 2 แรกเริ่มร้านแห่งนี้อยู่ในซอยหลังสวน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่บ้านเรือนไทยในซอยสุขุมวิท 53 แน่นอนว่าปรัชญาการทำอาหารของเชฟการิมาไม่เคยเปลี่ยน เธอนำเสนอรากเหง้าของเธอออกมาได้อย่างน่าสนใจทั้งสตรีทฟู้ดอินเดียในแบบโมเดิร์น รวมถึงการนำเอาขนุนและทุเรียนมาทำเป็นเมนคอร์ส ซึ่งน่าสนใจเพราะเราได้เรียนรู้ว่าคนอินเดียกินโปรตีนจากพืชเยอะมาก ที่สำคัญมาที่นี่แราแนะนำแพริ่งนอนแอลกอฮอล์แทนไวน์ เพราะทำได้ลึกมาก


ร้านอาหารไทยที่ได้รับมิชลิน 2 ดาว ประจำปี 2020‑2025 โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร ได้สร้างสรรค์เซตเมนูตามฤดูกาล นำเสนอวัตถุดิบท้องถิ่นทั่วไทยอันโดดเด่นของช่วงเวลานั้นๆ เสิร์ฟเป็นคอร์สอาหารไทยแบบสำรับ ผ่านวัตถุดิบอย่าง กุ้งแม่น้ำจากภูเก็ต, เนื้อวากิวจากโคราช, ไข่เค็มสุราษฎร์ สะท้อนภูมิปัญญา “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว”


ร้านมิชลิน 2 ดาว ร้านล่าสุด Côte by Mauro Colagreco มีเชฟ Mauro Colagreco เชฟเจ้าของร้าน Mirazur ร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกมาช่วยวางคอนเซปต์ โดยส่งมือขวา เชฟ Davide Garavaglia อดีตเชฟเดอคูซีนของมิราซูร์ มาประจำการในคอนเซปต์ Riviera to the River จากทะเลสู่แม่น้ำ และล่าสุดถือครองมิชลิน 1 ดาว มื้อกลางวัน 4 คอร์ส ราคา 3,300++บาท แต่เราแนะนำให้ลอง CARTE BLANCHE 9 คอร์ส ราคา 7,800++บาท ที่เราจะไม่รู้เลยว่าวันนั้นเราจะได้กินเมนูอะไรจากเชฟ


ร้านอาหารไทย-จีนโปรเกสซีฟ มิชลิน 1 ดาว ของเชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ ที่ปรับเอาบ้านเก่า ห้างขายยาปอคุนเอี๊ยะบ๊อของทางบ้านมาเปิดร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งขึ้นมาในเยาวราช โดยนำเสนอผ่านเทสติ้งเมนูมากกว่า 20 เมนู ที่เล่าถึง 5 Elements 5 Senses ล่าสุดมีเมนูอย่างผัดไทยที่เล่าถึงยุคสมัยจอมพล ป. รวมถึงซิกเนเจอร์อย่างโต๊ะจีนที่มีเป็ดดรายเอจ เมนูเด่นที่อยู่มาตั้งแต่เปิดร้าน ล่าสุดเชฟแพมยังเพิ่งได้รางวัล Asia's Best Female Chef 2024 และ The World's Best Female Chef 2025


ร้านข้าวแกงไฟน์ไดนิ่งที่ได้มิชลิน 1 ดาว ปี 2024-2025 โดยเชฟชาลี กาเดอร์ เชฟผู้อยู่เบื้องหลังร้านอาหารหลายแห่ง วรรณยุคน่าจะเป็นร้านไฟน์ไดน์แห่งแรกของเขาที่นำเอาข้าวหลากหลายสายพันธุ์มาหมุนเวียนให้เราได้กินในแต่ละคอร์ส ให้เราเข้าใจสัมผัสกลิ่นรสของข้าวที่แตกต่างกัน รวมถึงแต่ละคอร์สเราจะได้กินอาหารมากกว่า 1 อย่าง ตามแบบอย่างของข้าวแกง โดยเฉพาะเมนคอร์สที่มีทั้งข้าวและกับข้าวให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรมข้าวแกงในแบบที่หรูหราขึ้น


Haoma ของเชฟ Deepanker Khosla ได้มิชลิน 1 ดาว และมิชลินดาวเขียว ปี 2024-2025 ต้องบอกว่าฮาโอม่าตั้งใจที่จะสร้างร้านอาหารที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมาโดยตลอด ออกแบบร้านให้มีระบบทุกอย่างจบในร้าน และลดขยะแพ็กเกจจิงต่างๆ จนปีหลังๆ เชฟ DK ลงทุนเปิดฟาร์มของตัวเองในโซนสุวินทวงศ์ ทำให้มีวัตถุดิบของตัวเองแทบจะครบ อีกจุดเด่นของที่นี่ก็คือการนำเสนออาหารอินเดียในแบบโมเดิร์นที่เล่าเรื่องราวภูมิภาคต่างๆ ของอินเดียออกมาได้อย่างน่าสนใจ


นี่คือร้านอาหารแห่งแรกของเชฟ Arnaud Dunand Sauthier ภายหลังจากที่ปั้นห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมชื่อดังจนประสบความสำเร็จได้มิชลิน 2 ดาว ก่อนตัดสินใจออกมาทำร้านอาหารของตัวเองและได้มิชลิน 1 ดาว ที่นี่เชฟตั้งในนำเสนอ Savoie บ้านเกิดของเชฟในฝรั่งเศส พร้อมวัตถุดิบนำเข้าส่งตรงมาจากบ้านเกิด มื้อกลางวัน 3,500++บาท และมื้อค่ำ 5,500 และ 7,500++บาท


ย่างเข้าสู่ปีที่ 7 ของร้านอาหารโมเดิร์นยูโรเปี้ยนของเชฟ Top Russell และเชฟ Michelle Goh ที่ฝ่ากระแสโควิดจนคว้า 1 ดาวมิชลินมาได้สำเร็จ 2 ปีซ้อน มาพร้อมเมนู "Taste of Mia" เทสติ้งเมนูที่นำเอาวัตถุดิบตามฤดูกาลมานำเสนอผ่านเทคนิคใหม่ต่างๆ โดยเฉพาะคอร์สขนมปังและของหวานของเชฟมิชเชลก็เป็นไฮไลต์ไม่แพ้อาหารคาว


ห้องอาหารฝรั่งเศสมิชลิน 1 ดาว โดยเชฟ Thierry Drapeau ที่เดินทางมาจากลุ่มแม่น้ำ Loire ในฝรั่งเศสตอนนี้นำเสนอเซตเมนู Flower Bouquet ในธีมของดอกไม้แต่เปลี่ยนวัตถุดิบไปตามฤดูกาล


ห้องอาหารมิชลิน 1 ดาว โดยเชฟ Andreas Caminada นำเสนออาหารสไตล์สวิสคลาสสิกและร่วมสมัยเสิร์ฟในรูปแบบที่สนุกสนาน โดยมีเชฟอาเน่ รีน ดูแลสาขากรุงเทพฯ เสิร์ฟเมนูที่ใช้วัตถุดิบประจำฤดูกาลของทางยุโรป และเพิ่มความพิเศษด้วยวัตถุดิบประจำฤดูกาลของบ้านเราเข้ามาด้วย


ร้านอาหารแห่งแรกที่ออกตัวในคอนเซ็ปต์ Borderless Cuisine โดยเชฟ Shunsuke Shimomura ที่พาร้านอาหารแห่งนี้ได้ดาวมิชลิน 1 ดวง ล่าสุดปล่อยเซตเมนู Vegetarian ออกมาคู่กับเทสติ้งเมนูที่ไม่ได้ระบุสัญชาติ แต่มีตัวตนในฐานะคนญี่ปุ่นของเขาอยู่


ร้านอาหารฝรั่งเศส 1 ดาวมิชลิน ที่ได้เชฟระดับตำนาน อลัง ดูคาส (Alain Ducasse) หนึ่งในผู้ครอบครองดาวมิชลินมากที่สุดคนหนึ่งมาเป็นที่ปรึกษา ล่าสุดเปลี่ยนเชฟคนใหม่ Evens Lopez เชฟชาวเปรู ที่ทำอาหารฝรั่งเศสโดยใช้วัตถุดิบในประเทศไทยค่อนข้างเยอะ เสริมด้วยวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส ทำเมนูต่างจากดูคาสร้านอื่น มื้อกลางวัน 3 Courses ราคา 2,950++บาท และ Menu Decouverte ราคา 6,500++บาท และเทสติ้งเมนู Voyage 8 Courses ราคา 8,500++บาท


ร้านอาหารระดับตำนานที่ผู้คนจากทั่วโลกตั้งใจเดินทางมาต่อคิวเพื่อกินอาหารของเจ๊ โดยเฉพาะไข่เจียวปูที่มีเทคนิคการทำที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำได้เหมือน แต่เมนูอื่นๆ ที่เราชอบยังมีทั้งโจ๊กแห้ง และผัดขี้เมาทะเล

ร้านอาหารที่นำเอาสัดส่วนของวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้มากถึง 80 % มานำเสนอ ล่าสุดได้มิชลิน 1 ดาว ภายใต้การนำของเชฟแทฟ-ทวีศักดิ์ พุทธวงศ์ ที่นำเสนออาหารไทย-ลาวด้วยเทคนิคอาหารสมัยใหม่


ร้านอาหารไทยมิชลิน 1 ดาว ที่สามารถครอบครองดาวมาได้โดยตลอด นำสูตรอาหารไทยดั้งเดิมมาประยุกต์ให้มีรูปแบบใหม่ๆ พร้อมเมนูโบราณหากินยาก เซตอาหารกลางวัน และ Legendary Thai Recipes set


ล่าสุดเพิ่งย้ายโลเคชั่นไปที่ใหม่ บ้านไม้วินเทจท่ามกลางสวนเขียว แต่ยังคงเป็นเชฟหนุ่ม-ธนินธร จันทรวรรณ มาดูแลเมนูอาหารเหมือนเคย ยังคงเป็นอาหารไทย 4 ภาค ในช่วงกลางของกรุงรัตนโกสินทร์ อาทิ ต้มยำปลาช่อนโบราณ คนอมจินซาวน้ำ กุ้งแม่น้ำซอสมัสยา และลิ้นวัวบ้านไท แถมร้านนี้ยังได้มิชลิน 1 ดาว ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียด้วย


ล่าสุดไปไกลในระดับโลกและเอเชียแล้ว แถมยังได้ 1 ดาวมิชลิน มาโดยตลอด สำหรับร้านอาหารไทยร่วมสมัยของเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่ตอนนี้เปิดให้บริการมาแล้ว 10 ปี แน่นอนว่าที่นี่ยังคงทำอาหารไทยแบบร่วมสมัยที่เชฟต้นตีความใหม่ แต่ปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลตามชื่อร้าน รวมถึงการทำงานกับเกษตรกรและประมงเรือเล็ก ที่นี่มีเมนูเด่นอย่าง ข้าวคลุกกะปิ และข้าวแช่


ห้องอาหารฝรั่งเศสกลิ่นอายญี่ปุ่น 1 ดาวมิชลิน ที่ได้ทางห้องอาหาร Ciel Bleu ในกรุงอัมสเตอร์ดัม มาเป็นพี่ใหญ่ช่วยดูแล ล่าสุดเป็นเชฟ Gerard Villaret Horcajo ที่นำเอาปรัชญาการทำอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่น แถมตอนนี้เชฟเริ่มนำเอาวัตถุดิบไทยมาใช้มากขึ้น มี 3 เซต Ku-Ki Experience 4 คอร์ส ราคา 3,700++บาท Chikyu Experience 6 คอร์ส ราคา 4,900++บาท และ Mizu Experience 8 คอร์ส ราคา 6,400++บาท


สำรับสำหรับไทย ได้มิชลิน 1 ดาว เป็นปีที่ 2 แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่นี่เริ่มต้นจากการเป็นเชฟเทเบิลขนาดเล็กที่ต้องการคืนชีพให้กับตำราอาหารไทยโบราณ เชฟปริญญ์ ผลสุข อดีตเชฟของร้านน้ำ และศาลาริมน้ำ จึงเริ่มหมุนเวียนเอาตำราอาหารที่ได้มาปรับสูตรให้เข้ากับยุคสมัย แล้วทำให้มีชีวิตอีกครั้งและกินได้จริง


นว มาจากคำว่า “นวัตกรรม” ที่เชฟโจ-ณพล จันทรเกตุ และเชฟซากิ โฮชิโนะ ต้องการนำเอาเทคนิคสมัยใหม่มายกระดับอาหารไทย นำเสนอในรูปแบบเทสต้ิงเมนูที่ใช้วัตถุดิบเปลี่ยนไปตามฤดูกาล


ร้านอาหารไทยร้านแรกที่ได้มิชลินในอังกฤษ ล่าสุดนำทีมโดยเชฟพิม เตชะมวลไววิทย์ ที่ยังคง 1 ดาวมิชลินมาได้โดยตลอด เซตหลักเป็น Heritage Set Menu ที่เปรียบได้กับเทสติ้งเมนูที่มีทั้งคานาเป้ อาหารเรียกน้ำย่อย จานหลัก จนถึงของหวาน แต่ก็จะมีเซตขนมจีนในช่วงมื้อกลางวัน รวมถึงอลาคาร์ทด้วย


ร้านอาหารไทย โดยเชฟเดวิด ธอมป์สัน ผู้ปลูกปั้นร้านอาหารไทยให้ได้ดาวมิชลินมาแล้วในอังกฤษ และทำได้อีกครั้งที่ Aksorn คว้า 1 ดาวได้ เชฟเดวิดเลือกใช้ตำราอาหารไทยยุค พ.ศ.2480-2515 ที่สะสมมาเป็นข้อมูลอ้างอิงในการทำเมนูของร้าน


Inddee ไม่ใช่ร้านอาหารเปิดใหม่ แต่เป็นร้านอาหารอินเดียไฟน์ไดนิงที่กำลังอยู่ในกระแสมากที่สุดร้านหนึ่ง หลังจากเชฟ Sachin Poojary เพิ่งได้รับรางวัล One Knife จาก The Best Chef 2025 ซึ่งมอบให้เชฟที่มีความยอดเยี่ยมในการทำอาหาร โดยก่อนหน้าร้านอาหารแห่งนี้ได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาว ควบคู่กับรางวัล Sommelier Award ของเจย์-ธนากร บอทอร์ฟ
ล่าสุดเพิ่งเปลี่ยนเทสติงเมนูใหม่ 10 Destination Journey ที่พาเราออกเดินทางไปทั่วประเทศอินเดีย ผ่าน 10 จานอาหาร ราคา 4,900++บาท เร่ิมจากอะมุชบุช Chaat สตรีตฟู้ดอินเดีย โยเกิร์ตมิลก์ทาร์ตกับคีนัวร์ ชัตเน่ทับทิม และเจลมะม่วงยุซุ ,Patra หอยเชลล์ฮอกไกโดกับสาหร่ายคอมบุ, Dhabeli ซอฟต์บันกับสไปซ์พีนัต, Vada Pav มันฝรั่งสอดไส้มาซาลา และ Khari Chai ครีมโรลแกะกับชามาซาลา
เริ่มเดินทางจาก Gujarat ทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย ‘Parsi Love Affair’ ไข่ตุ๋นกับน้ำดาชิไก่ ถั่ว และคาเวียร์ ที่รสชาติคล้ายอาหารญี่ปุ่นหน่อยๆ ด้วยประสบการณ์ที่เชฟเคยทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น เดินทางต่อไปที่ Sikkim เมนู ‘Himalayan Winter’ ซุปเกี๊ยวน้ำอุ่นๆ
มากันที่เมืองชายฝั่ง Goa กับเมนู ‘When the Portuguese Came’ เลือกชนิดกุ้งได้ระหว่าง Carabineros หรือ Palamos อย่างหลังเพิ่มราคา แต่จะให้สัมผัสและรสชาติที่ต่างกัน กุ้งย่างกินกับซอสพริกที่เชฟนำเอาเสาวรสและสับปะรดมาใช้ ก่อนเดินทางขึ้นเหนือมาไม่ไกลที่ Mumbai กับ ‘Odd One Out’ ปูเนยกระเทียมพริกไทย ข้าวพอง และสาหร่าย
เดินทางต่อไปทางฝั่งตะวันออกที่ Kolkata กับ ‘Queen of Pickles’ ปลาหิมะกับซอสเบลอบลองก์ กับสไปซ์ 5 ตัว ‘Bread Intermission’ ขนมปังอินเดียที่เลือกขนมปังอินเดียได้ตามชอบ ข้ามมาที่เมือง Awadh กับ ‘Kebab-Loving King’ ฟัวการ์ส ก่อนที่มาจบเมนคอร์ส ‘Three Ways’ ที่มีให้เลือกระหว่างไก่และแกะ โดยเนื้อสัตว์มีให้เลือกระหว่างไก่กับแกะ ที่สามารถเลือกรสชาติได้ 3 ซอส จาก 3 เมือง โดยให้เราเลือกจากวงล้อรสชาติ
ส่วนของหวานเริ่มที่ Mumbai กับ ‘A Tale of Milk & Sugar’ ขนมหวานที่มีกุหลาบเป็นองค์ประกอบ และขึ้นไปทางภาคเหนือที่ Kashmir กับ ‘Gucchi Hunt’ ที่นำเอาเห็ดมอเรลมาทำของหวาน ทำเป็นภูเขาหิมะในแคว้นแคชเมียร์





ในที่สุดความพยายามของเชฟ Hikal Johari ในการกลับมายืนทำอาหารในครัวอีกครั้งก็ส่งผลให้ AVANT ร้านอาหารแห่งใหม่ คว้า 1 ดาวมิชลิน จากมิชลินไกด์ปีล่าสุดได้สำเร็จ ที่นี่มาในแบบเชฟเทเบิล ซึ่งเป็นรูปแบบที่เชฟเคยเปิดร้านแรกของตัวเองในกรุงเทพฯ โดยเชฟไฮเคิลออกแบบมื้ออาหารให้เป็นอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่โฟกัสที่วัตถุดิบอาหารทะเลจากญี่ปุ่น เชฟเลือกใช้เฉพาะเกรดซาซิมิ เพื่อนำมาทำอาหารให้ได้หลากหลายแบบ เสิร์ฟ 9 คอร์ส



ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งบนถนนวิทยุที่นำรสชาติที่เราคุ้นเคยในอาหารไทยมาทำใหม่ โดยเชฟแท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล ที่มีประสบการณ์การทำงานร้านอาหารในออสเตรเลียมากว่า 10 ปี จึงมีไอเดียในการปรุงอาหารที่ผสมผสานไทยกับตะวันตก อีกส่วนหนึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ เจ้าของร้านอาหารเกียง้วน หรือมหาชัยซีฟู้ด นอกจากนี้ยังมีเมนูเด่นอย่าง เป็ดดรายเอจ ที่เสิร์ฟ 2 แบบ กับซอสกาแฟ และข้าวต้มเป็ด

GOAT หรือ Greatest of All Time ร้านอาหารของเชฟแทน-ภากร โกสิยพงษ์ ที่ตกแต่งสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ผสมผสานองค์ประกอบของอาหารไทย จีน และตะวันตกเข้าด้วยกัน ในแบบ Offbeat Thai-Chinese cuisine โดยยึดตามคอนเซ็ปต์วัตถุดิบไทยตามฤดูกาลของไทย เช่น กุ้งแม่น้ำ เนื้อวากิวไทย สมุนไพรจากสวนหลังร้าน อาหารแต่ละจานยังเล่าเรื่องราวของแต่ละจังหวัด ที่นี่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน ล่าสุดได้เปลี่ยนมาใช้วัตถุดิบที่มาจากไทย 100% และจัดการกับขยะอาหารของร้านให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ทุกๆ สามเดือน จากนั้นส่งคืนเกษตรกรเพื่อนำไปปลูกผลไม้และผัก ที่นี่ยังใช้จานรีไซเคิลที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ อย่าง ไข่ไก่