ล่าสุดยังไม่มีการประกาศ “ดาวมิชลิน” เพิ่มแต่อย่างใด แต่บอกเลยว่านี่อาจจะเป็น “โค้งสุดท้าย” กับการตามเก็บดาวมิชลิน เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาประกาศผลรางวัลร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกในคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' ฉบับประเทศไทย ประจำ พ.ศ. 2568 ในช่วงปลายปี ซึ่งบางร้านอาจจะได้ดาวเพิ่ม หรือบางร้านอาจจะดาวหลุด รวมถึงอาจจะมีการปรับราคาคอร์สอาหาร
เราเลยไปรวบรวมราคาอัปเดตล่าสุดของร้านอาหารในกรุงเทพฯที่ได้ดาวทั้งหมดมา รวม 33 ร้าน แบ่งเป็นร้านอาหารมิชลิน 2 ดาว จำนวน 7 ร้าน และร้านอาหารมิชลิน 1 ดาว จำนวน 26 ร้าน พร้อมข้อมูลการจอง และราคาอัปเดตล่าสุด
ร้านอาหารไทยร้านแรกในโลกที่ได้มิชลิน 3 ดาว นำเสนออาหารปักษ์ใต้โดยเชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ ที่ปั้นอาหารปักษ์ใต้ไปสู่ความเป็นร้านอาหารระดับโลก เรียกว่ามีความสม่ำเสมอมากในเรื่องรสชาติ ที่จัดจ้านเกินกว่าที่ร้านไฟน์ไดนิ่งจะทำออกมา เล่าผ่านเทสติ้งเมนูและวัตถุดิบที่เชฟไอซ์และทีมตระเวนเฟ้นหามาให้คนกินอย่างเราได้รู้จักภาคใต้ของประเทศไทยมากขึ้น
ห้องอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่ได้มิชลิน 2 ดาว มายาวนานถึง 8 ปีซ้อน โดยมีเชฟใหญ่ชาวญี่ปุ่น Ryuki Kawasaki นำทีมมาโดยตลอด จุดเด่นของอาหารอยู่ที่เทคนิคฝรั่งเศส แต่เชฟริวกินำเอากลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นมาสอดแทรกไว้ในอาหารฝรั่งเศสได้อย่างแนบเนียน ผ่านอาหารทั้งหมด 7 คอร์ส เราว่าไฮไลต์เมนูของเชฟริวกิอยู่ที่เมนคอร์ส โดยเฉพาะจานเนื้อวัวที่เชฟเลือกใช้เนื้อวัวญี่ปุ่น
ปีนี้ร้านอาหารบ้านเทพาได้มิชลิน 2 ดาว เป็นปีที่ 2 ควบ รางวัลมิชลินดาวรักษ์โลก หรือ Michelin Green Star 2025 สำหรับบ้านเทพานำเสนออาหารไทยร่วมสมัยที่เกิดขึ้นจากการเดินทางทั่วไทยของเชฟตามและทีมเพื่อหาวัตถุดิบท้องถิ่นที่น่าสนใจและยังไม่ถูกนำมาใช้ให้เป็นที่รู้จักผ่านอาหารทั้ง 9 คอร์ส
นอกจากนี้ยังนำเสนอแนวคิดจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ผ่านวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ยั่งยืน ซึ่งบางส่วนมาจากสวนหลังบ้านของเธอเอง ในครัวยังไม่มี 'ขยะอาหาร' แต่แปรรูปวัตถุดิบเหลือทิ้งไปเป็นเครื่องปรุงรสชั้นเลิศ รวมถึงนำเอาเปลือกปูมาแปรรูปเป็นของตกแต่งโต๊ะอาหารที่มีศิลปะ และเศษผลไม้และผักแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก
ห้องอาหารฝรั่งเศสโดยเชฟ Vincent Thierry เชฟแถวหน้าจากลุ่มแม่น้ำลัวร์ ที่พาร้านอาหารแห่งนี้ได้ 2 ดาว มาตั้งแต่ปีแรกที่มีการประกาศรางวัลมิชลินในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน เชฟเล่าเรื่องอาหารฝรั่งเศสสมัยใหม่ผ่านเทสติ้งเมนู 7 คอร์ส
ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน โดยเชฟแฝด Thomas & Mathias ที่นำเสนออาหารเยอรมันสมัยใหม่ ผสมผสานความทรงจำในวัยเด็ก อาหารที่กินกันในครอบครัว และประสบการณ์การเดินทาง สรุปรวมออกมาเป็นอาหารในแบบของเชฟแฝด เมนู Sühring Erlebnis ให้บริการทั้ง 2 มื้อ มื้อกลางวัน มีให้เลือก 3 คอร์ส ราคา 4,800++บาท, 6 คอร์ส ราคา 7,800++บาท และ 9 คอร์ส ราคา 9,800++บาท
ร้านอาหารโดยเชฟ Garima Arora เจ้าของรางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award 2022 ซึ่งในปีนี้คว้ามิชลิน 2 ดาว เป็นปีที่ 2 แรกเริ่มร้านแห่งนี้อยู่ในซอยหลังสวน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่บ้านเรือนไทยในซอยสุขุมวิท 53 แน่นอนว่าปรัชญาการทำอาหารของเชฟการิมาไม่เคยเปลี่ยน เธอนำเสนอรากเหง้าของเธอออกมาได้อย่างน่าสนใจทั้งสตรีทฟู้ดอินเดียในแบบโมเดิร์น รวมถึงการนำเอาขนุนและทุเรียนมาทำเป็นเมนคอร์ส ซึ่งน่าสนใจเพราะเราได้เรียนรู้ว่าคนอินเดียกินโปรตีนจากพืชเยอะมาก ที่สำคัญมาที่นี่แราแนะนำแพริ่งนอนแอลกอฮอล์แทนไวน์ เพราะทำได้ลึกมาก
ร้านอาหารไทยที่ได้รับมิชลิน 2 ดาว ประจำปี 2020‑2025 โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร ได้สร้างสรรค์เซตเมนูตามฤดูกาล นำเสนอวัตถุดิบท้องถิ่นทั่วไทยอันโดดเด่นของช่วงเวลานั้นๆ เสิร์ฟเป็นคอร์สอาหารไทยแบบสำรับ ผ่านวัตถุดิบอย่าง กุ้งแม่น้ำจากภูเก็ต, เนื้อวากิวจากโคราช, ไข่เค็มสุราษฎร์ สะท้อนภูมิปัญญา “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว”
ร้านมิชลิน 2 ดาว ร้านล่าสุด Côte by Mauro Colagreco มีเชฟ Mauro Colagreco เชฟเจ้าของร้าน Mirazur ร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกมาช่วยวางคอนเซปต์ โดยส่งมือขวา เชฟ Davide Garavaglia อดีตเชฟเดอคูซีนของมิราซูร์ มาประจำการในคอนเซปต์ Riviera to the River จากทะเลสู่แม่น้ำ และล่าสุดถือครองมิชลิน 1 ดาว มื้อกลางวัน 4 คอร์ส ราคา 3,300++บาท แต่เราแนะนำให้ลอง CARTE BLANCHE 9 คอร์ส ราคา 7,800++บาท ที่เราจะไม่รู้เลยว่าวันนั้นเราจะได้กินเมนูอะไรจากเชฟ
ร้านอาหารไทย-จีนโปรเกสซีฟ มิชลิน 1 ดาว ของเชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ ที่ปรับเอาบ้านเก่า ห้างขายยาปอคุนเอี๊ยะบ๊อของทางบ้านมาเปิดร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งขึ้นมาในเยาวราช โดยนำเสนอผ่านเทสติ้งเมนูมากกว่า 20 เมนู ที่เล่าถึง 5 Elements 5 Senses ล่าสุดมีเมนูอย่างผัดไทยที่เล่าถึงยุคสมัยจอมพล ป. รวมถึงซิกเนเจอร์อย่างโต๊ะจีนที่มีเป็ดดรายเอจ เมนูเด่นที่อยู่มาตั้งแต่เปิดร้าน ล่าสุดเชฟแพมยังเพิ่งได้รางวัล Asia's Best Female Chef 2024 และ The World's Best Female Chef 2025
ร้านข้าวแกงไฟน์ไดนิ่งที่ได้มิชลิน 1 ดาว ปี 2024-2025 โดยเชฟชาลี กาเดอร์ เชฟผู้อยู่เบื้องหลังร้านอาหารหลายแห่ง วรรณยุคน่าจะเป็นร้านไฟน์ไดน์แห่งแรกของเขาที่นำเอาข้าวหลากหลายสายพันธุ์มาหมุนเวียนให้เราได้กินในแต่ละคอร์ส ให้เราเข้าใจสัมผัสกลิ่นรสของข้าวที่แตกต่างกัน รวมถึงแต่ละคอร์สเราจะได้กินอาหารมากกว่า 1 อย่าง ตามแบบอย่างของข้าวแกง โดยเฉพาะเมนคอร์สที่มีทั้งข้าวและกับข้าวให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรมข้าวแกงในแบบที่หรูหราขึ้น
Haoma ของเชฟ Deepanker Khosla ได้มิชลิน 1 ดาว และมิชลินดาวเขียว ปี 2024-2025 ต้องบอกว่าฮาโอม่าตั้งใจที่จะสร้างร้านอาหารที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมาโดยตลอด ออกแบบร้านให้มีระบบทุกอย่างจบในร้าน และลดขยะแพ็กเกจจิงต่างๆ จนปีหลังๆ เชฟ DK ลงทุนเปิดฟาร์มของตัวเองในโซนสุวินทวงศ์ ทำให้มีวัตถุดิบของตัวเองแทบจะครบ อีกจุดเด่นของที่นี่ก็คือการนำเสนออาหารอินเดียในแบบโมเดิร์นที่เล่าเรื่องราวภูมิภาคต่างๆ ของอินเดียออกมาได้อย่างน่าสนใจ
นี่คือร้านอาหารแห่งแรกของเชฟ Arnaud Dunand Sauthier ภายหลังจากที่ปั้นห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมชื่อดังจนประสบความสำเร็จได้มิชลิน 2 ดาว ก่อนตัดสินใจออกมาทำร้านอาหารของตัวเองและได้มิชลิน 1 ดาว ที่นี่เชฟตั้งในนำเสนอ Savoie บ้านเกิดของเชฟในฝรั่งเศส พร้อมวัตถุดิบนำเข้าส่งตรงมาจากบ้านเกิด มื้อกลางวัน 3,500++บาท และมื้อค่ำ 5,500 และ 7,500++บาท
ย่างเข้าสู่ปีที่ 7 ของร้านอาหารโมเดิร์นยูโรเปี้ยนของเชฟ Top Russell และเชฟ Michelle Goh ที่ฝ่ากระแสโควิดจนคว้า 1 ดาวมิชลินมาได้สำเร็จ 2 ปีซ้อน มาพร้อมเมนู "Taste of Mia" เทสติ้งเมนูที่นำเอาวัตถุดิบตามฤดูกาลมานำเสนอผ่านเทคนิคใหม่ต่างๆ โดยเฉพาะคอร์สขนมปังและของหวานของเชฟมิชเชลก็เป็นไฮไลต์ไม่แพ้อาหารคาว
ห้องอาหารฝรั่งเศสมิชลิน 1 ดาว โดยเชฟ Thierry Drapeau ที่เดินทางมาจากลุ่มแม่น้ำ Loire ในฝรั่งเศสตอนนี้นำเสนอเซตเมนู Flower Bouquet ในธีมของดอกไม้แต่เปลี่ยนวัตถุดิบไปตามฤดูกาล
ห้องอาหารมิชลิน 1 ดาว โดยเชฟ Andreas Caminada นำเสนออาหารสไตล์สวิสคลาสสิกและร่วมสมัยเสิร์ฟในรูปแบบที่สนุกสนาน โดยมีเชฟอาเน่ รีน ดูแลสาขากรุงเทพฯ เสิร์ฟเมนูที่ใช้วัตถุดิบประจำฤดูกาลของทางยุโรป และเพิ่มความพิเศษด้วยวัตถุดิบประจำฤดูกาลของบ้านเราเข้ามาด้วย
ร้านอาหารแห่งแรกที่ออกตัวในคอนเซ็ปต์ Borderless Cuisine โดยเชฟ Shunsuke Shimomura ที่พาร้านอาหารแห่งนี้ได้ดาวมิชลิน 1 ดวง ล่าสุดปล่อยเซตเมนู Vegetarian ออกมาคู่กับเทสติ้งเมนูที่ไม่ได้ระบุสัญชาติ แต่มีตัวตนในฐานะคนญี่ปุ่นของเขาอยู่
ร้านอาหารฝรั่งเศส 1 ดาวมิชลิน ที่ได้เชฟระดับตำนาน อลัง ดูคาส (Alain Ducasse) หนึ่งในผู้ครอบครองดาวมิชลินมากที่สุดคนหนึ่งมาเป็นที่ปรึกษา ล่าสุดเปลี่ยนเชฟคนใหม่ Evens Lopez เชฟชาวเปรู ที่ทำอาหารฝรั่งเศสโดยใช้วัตถุดิบในประเทศไทยค่อนข้างเยอะ เสริมด้วยวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส ทำเมนูต่างจากดูคาสร้านอื่น มื้อกลางวัน 3 Courses ราคา 2,950++บาท และ Menu Decouverte ราคา 6,500++บาท และเทสติ้งเมนู Voyage 8 Courses ราคา 8,500++บาท
ร้านอาหารระดับตำนานที่ผู้คนจากทั่วโลกตั้งใจเดินทางมาต่อคิวเพื่อกินอาหารของเจ๊ โดยเฉพาะไข่เจียวปูที่มีเทคนิคการทำที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำได้เหมือน แต่เมนูอื่นๆ ที่เราชอบยังมีทั้งโจ๊กแห้ง และผัดขี้เมาทะเล
ร้านอาหารที่นำเอาสัดส่วนของวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้มากถึง 80 % มานำเสนอ ล่าสุดได้มิชลิน 1 ดาว ภายใต้การนำของเชฟแทฟ-ทวีศักดิ์ พุทธวงศ์ ที่นำเสนออาหารไทย-ลาวด้วยเทคนิคอาหารสมัยใหม่
ร้านอาหารไทยมิชลิน 1 ดาว ที่สามารถครอบครองดาวมาได้โดยตลอด นำสูตรอาหารไทยดั้งเดิมมาประยุกต์ให้มีรูปแบบใหม่ๆ พร้อมเมนูโบราณหากินยาก เซตอาหารกลางวัน และ Legendary Thai Recipes set
ล่าสุดเพิ่งย้ายโลเคชั่นไปที่ใหม่ บ้านไม้วินเทจท่ามกลางสวนเขียว แต่ยังคงเป็นเชฟหนุ่ม-ธนินธร จันทรวรรณ มาดูแลเมนูอาหารเหมือนเคย ยังคงเป็นอาหารไทย 4 ภาค ในช่วงกลางของกรุงรัตนโกสินทร์ อาทิ ต้มยำปลาช่อนโบราณ คนอมจินซาวน้ำ กุ้งแม่น้ำซอสมัสยา และลิ้นวัวบ้านไท แถมร้านนี้ยังได้มิชลิน 1 ดาว ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียด้วย
ล่าสุดไปไกลในระดับโลกและเอเชียแล้ว แถมยังได้ 1 ดาวมิชลิน มาโดยตลอด สำหรับร้านอาหารไทยร่วมสมัยของเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่ตอนนี้เปิดให้บริการมาแล้ว 10 ปี แน่นอนว่าที่นี่ยังคงทำอาหารไทยแบบร่วมสมัยที่เชฟต้นตีความใหม่ แต่ปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลตามชื่อร้าน รวมถึงการทำงานกับเกษตรกรและประมงเรือเล็ก ที่นี่มีเมนูเด่นอย่าง ข้าวคลุกกะปิ และข้าวแช่
ห้องอาหารฝรั่งเศสกลิ่นอายญี่ปุ่น 1 ดาวมิชลิน ที่ได้ทางห้องอาหาร Ciel Bleu ในกรุงอัมสเตอร์ดัม มาเป็นพี่ใหญ่ช่วยดูแล ล่าสุดเป็นเชฟ Gerard Villaret Horcajo ที่นำเอาปรัชญาการทำอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่น แถมตอนนี้เชฟเริ่มนำเอาวัตถุดิบไทยมาใช้มากขึ้น มี 3 เซต Ku-Ki Experience 4 คอร์ส ราคา 3,700++บาท Chikyu Experience 6 คอร์ส ราคา 4,900++บาท และ Mizu Experience 8 คอร์ส ราคา 6,400++บาท
สำรับสำหรับไทย ได้มิชลิน 1 ดาว เป็นปีที่ 2 แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่นี่เริ่มต้นจากการเป็นเชฟเทเบิลขนาดเล็กที่ต้องการคืนชีพให้กับตำราอาหารไทยโบราณ เชฟปริญญ์ ผลสุข อดีตเชฟของร้านน้ำ และศาลาริมน้ำ จึงเริ่มหมุนเวียนเอาตำราอาหารที่ได้มาปรับสูตรให้เข้ากับยุคสมัย แล้วทำให้มีชีวิตอีกครั้งและกินได้จริง
นว มาจากคำว่า “นวัตกรรม” ที่เชฟโจ-ณพล จันทรเกตุ และเชฟซากิ โฮชิโนะ ต้องการนำเอาเทคนิคสมัยใหม่มายกระดับอาหารไทย นำเสนอในรูปแบบเทสต้ิงเมนูที่ใช้วัตถุดิบเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
ร้านอาหารไทยร้านแรกที่ได้มิชลินในอังกฤษ ล่าสุดนำทีมโดยเชฟพิม เตชะมวลไววิทย์ ที่ยังคง 1 ดาวมิชลินมาได้โดยตลอด เซตหลักเป็น Heritage Set Menu ที่เปรียบได้กับเทสติ้งเมนูที่มีทั้งคานาเป้ อาหารเรียกน้ำย่อย จานหลัก จนถึงของหวาน แต่ก็จะมีเซตขนมจีนในช่วงมื้อกลางวัน รวมถึงอลาคาร์ทด้วย
ร้านอาหารไทย โดยเชฟเดวิด ธอมป์สัน ผู้ปลูกปั้นร้านอาหารไทยให้ได้ดาวมิชลินมาแล้วในอังกฤษ และทำได้อีกครั้งที่ Aksorn คว้า 1 ดาวได้ เชฟเดวิดเลือกใช้ตำราอาหารไทยยุค พ.ศ.2480-2515 ที่สะสมมาเป็นข้อมูลอ้างอิงในการทำเมนูของร้าน
ร้านอาหารอินเดียไฟน์ไดนิ่งเปิดใหม่ เปิดมาคว้า 1 ดาวมิชลินทันที แถมเจย์-ธนากร บอทอร์ฟ ซอมเมอลิเยร์ของร้าน ยังคว้ารางวัล Sommelier Award อีกด้วย ร้านอยู่ภายในบ้านเก่าอายุกว่า 100 ปี ได้ตัวเชฟ Sachin Poojary ที่เคยผ่านงานที่ The Taj Mumbai ซึ่งเป็นที่โชว์เคสอาหารอินเดียแบบดั้งเดิมที่โด่งดัง ก่อนย้ายมากรุงเทพฯ
ในที่สุดความพยายามของเชฟ Hikal Johari ในการกลับมายืนทำอาหารในครัวอีกครั้งก็ส่งผลให้ AVANT ร้านอาหารแห่งใหม่ คว้า 1 ดาวมิชลิน จากมิชลินไกด์ปีล่าสุดได้สำเร็จ ที่นี่มาในแบบเชฟเทเบิล ซึ่งเป็นรูปแบบที่เชฟเคยเปิดร้านแรกของตัวเองในกรุงเทพฯ โดยเชฟไฮเคิลออกแบบมื้ออาหารให้เป็นอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่โฟกัสที่วัตถุดิบอาหารทะเลจากญี่ปุ่น เชฟเลือกใช้เฉพาะเกรดซาซิมิ เพื่อนำมาทำอาหารให้ได้หลากหลายแบบ เสิร์ฟ 9 คอร์ส
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งบนถนนวิทยุที่นำรสชาติที่เราคุ้นเคยในอาหารไทยมาทำใหม่ โดยเชฟแท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล ที่มีประสบการณ์การทำงานร้านอาหารในออสเตรเลียมากว่า 10 ปี จึงมีไอเดียในการปรุงอาหารที่ผสมผสานไทยกับตะวันตก อีกส่วนหนึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ เจ้าของร้านอาหารเกียง้วน หรือมหาชัยซีฟู้ด นอกจากนี้ยังมีเมนูเด่นอย่าง เป็ดดรายเอจ ที่เสิร์ฟ 2 แบบ กับซอสกาแฟ และข้าวต้มเป็ด
GOAT หรือ Greatest of All Time ร้านอาหารของเชฟแทน-ภากร โกสิยพงษ์ ที่ตกแต่งสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ผสมผสานองค์ประกอบของอาหารไทย จีน และตะวันตกเข้าด้วยกัน ในแบบ Offbeat Thai-Chinese cuisine โดยยึดตามคอนเซ็ปต์วัตถุดิบไทยตามฤดูกาลของไทย เช่น กุ้งแม่น้ำ เนื้อวากิวไทย สมุนไพรจากสวนหลังร้าน อาหารแต่ละจานยังเล่าเรื่องราวของแต่ละจังหวัด ที่นี่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน ล่าสุดได้เปลี่ยนมาใช้วัตถุดิบที่มาจากไทย 100% และจัดการกับขยะอาหารของร้านให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ทุกๆ สามเดือน จากนั้นส่งคืนเกษตรกรเพื่อนำไปปลูกผลไม้และผัก ที่นี่ยังใช้จานรีไซเคิลที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ อย่าง ไข่ไก่